ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

หุ้นชิปญี่ปุ่นร่วงหนักตามหุ้นเทคสหรัฐ ดันกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เผชิญแรงกดดัน.

11.22 股

วันที่ 28 มกราคม หุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิปของญี่ปุ่นดิ่งลงอย่างมากเนื่องจากผลกระทบจากการเทขายหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ กลุ่มบริษัทซอฟท์แบงค์ราคาหุ้นลดลง 3.7% หุ้นโตเกียวอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 4.2% ขณะที่หุ้นของ ADVANTEST ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ลดลงถึง 9.6% ถือเป็นการลดลงต่อวันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2024 การร่วงลงครั้งนี้สะท้อนถึงความปั่นป่วนในตลาดหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่เกิดจากธีม AI

หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ จุดชนวนการเทขาย

หุ้นชิปญี่ปุ่นร่วงหนักตามหุ้นเทคสหรัฐ ดันกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เผชิญแรงกดดัน.

การลดลงของหุ้นชิปญี่ปุ่นครั้งนี้เกิดจากปฏิกิริยาลูกโซ่ในตลาดยุโรปและอเมริกาในคืนก่อนหน้า วันที่ 27 มกราคม ดัชนี Nasdaq Composite Index ของสหรัฐฯ ลดลง 3.07% โดยบริษัทเทคโนโลยีที่มีธีม AI ได้รับแรงกดดันหนักที่สุด หุ้น NVIDIA ลดลงเกือบ 17% มูลค่าตลาดหายไป 5,927 พันล้านดอลลาร์ในคืนเดียว สร้างสถิติการสูญเสียมูลค่าตลาดรายวันมากที่สุดในประวัติศาสตร์หุ้นสหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Broadcom ลดลง 17% AMD ลดลง 6.37% และไมโครซอฟท์ลดลง 2.14%

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การลดลงของหุ้น NVIDIA ส่วนใหญ่ถูกกระตุ้นจากความกังวลเกี่ยวกับการประเมินค่าของอุตสาหกรรม AI ด้วยการเติบโตของบริษัท AI ในประเทศ เช่น DeepSeek ที่มีโมเดลความสามารถสูงในราคาต่ำ ทำให้ความต้องการ GPU และสมรรถนะแบบไฮเอนด์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ผู้ลงทุนต้องประเมินแนวโน้มการเติบโตของบริษัทชิปใหม่

ความปั่นป่วนของหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป

ความกังวลนี้ได้ถูกส่งต่อมายังตลาดญี่ปุ่น โดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับชิปเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ ด้วยความเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในภาคเซมิคอนดักเตอร์ บริษัทญี่ปุ่นได้ติดตามการลดลงของหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ทันที แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่เหมือนกันในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก

กลุ่มบริษัทซอฟท์แบงค์ซึ่งมีการลงทุนในเทคโนโลยีชิปอย่างกว้างขวาง เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วยราคาหุ้นที่ลดลง 3.7% ในขณะที่โตเกียวอิเล็กทรอนิกส์และ ADVANTEST ได้รับผลกระทบจากธุรกิจอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อการชะลอตัวของความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ธีม AI ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ธีม AI เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดผันผวน หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีความอ่อนไหวสูงต่อข่าวสารเกี่ยวกับ AI โดยเฉพาะการทำลายล้างทางเทคโนโลยีที่อาจจะเปลี่ยนโฉมรูปแบบตลาดปัจจุบัน การเติบโตของบริษัทใหม่ๆ เช่น DeepSeek ได้สร้างความเชื่อมั่นใหม่ของนักลงทุนต่อยักษ์ใหญ่ AI แบบดั้งเดิม รวมทั้งกระทบต่อการประเมินค่าของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

ขณะนี้ ตลาดยังคงติดตามการพัฒนาเทคโนโลยี AI และผลกระทบต่อความต้องการชิปในระยะยาวด้วย ขณะที่ช่วงการประกาศผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีดำเนินไป นักลงทุนจะยังคงจับตามองแนวโน้มของอุตสาหกรรมและการปรับนโยบายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทำให้อนาคตของตลาดหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

商务合作 Skype ENG商务合作 Telegram Engคำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว

แบ่งปัน: