3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: Pfizer, Disney, Peloton
ตลาดลงทุนสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่แล้วมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ทั้งรายงานตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น พร้อมกันกับตัวเลขการว่างงาน และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สร้างความตกใจให้กับตลาดลงทุนอยู่พอสมควร ไฮไลท์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะหนีไม่พ้นขาลงของหุ้นบริษัทเมต้า (NASDAQ:FB) ที่รวงลงมากถึง 27% ภายในวันเดียว เช่นเดียวกันกับหุ้นของบริษัทเพย์พาล (NASDAQ:PYPL) ขาลงของหุ้นทั้งสอง ถือว่าสวนทางกับการทะยานขึ้น 13.5% ของหุ้นแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปได้ ในสัปดาห์นี้ นอกจากการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลาง การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ยังคงน่าสนใจ แต่จะมีอะไรบ้าง เราจะพาไปดู บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 “ไฟเซอร์” (NYSE:PFE) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ไฟเซอร์จะสามารถทำกำไรได้ $24,160 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.87 ปี 2021 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีทองของหุ้นไฟเซอร์อย่างแท้จริง ด้วยผลงานขาขึ้นมากกว่า 60% จากยอดขายวัคซีน mRNA ที่เป็นที่ต้องการเพื่อต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์ถือเป็นที่ยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และทั่วโลก ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการทำให้ยาเม็ดต้านโควิดได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ได้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า Paxlovid ยาเม็ดต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 ในปี 2022 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงระดับบุคคล ให้ไม่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มีรายงานในเดือนพฤศจิกายนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้สั่งซื้อยาเม็ดต้านโควิดนี้แล้วคิดเป็นเงินเกือบ $5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ปีนี้หุ้นไฟเซอร์กลับปรับตัวลดลงมาแล้ว 10% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $53 บริษัทเจ้าของอาณาจักรมิกกี้เมาส์ (NYSE:DIS) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ในวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ดิสนีย์จะสามารถทำกำไรได้ $20,270 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นที่ $0.73 อุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้นในปี 2021 หรือปีแห่งการฟื้นตัวสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตให้หุ้นดิสนีย์ เมื่อการรายงานผลประกอบการในเดือนพฤศจิกายน ดิสนีย์รายงานว่ายอดผู้สมัครสมาชิกใช้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในแง่ของอัตราการเติบโตในอนาคต เพราะดิสนีย์มีเป้าตั้งไว้ว่าต้องการมียอดผู้ใช้งานดิสนีย์พลัสให้ได้อีก 260 ล้านคนภายในปี 2024 Bob Chapek ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของดิสนีย์ได้บอกกับนักลงทุนในเดือนพฤศจิกายนว่ามีโอกาสน้อยมากที่ยอดผู้สมัครสมาชิกดิสนีย์พลัสจะกลับไปเติบโตอย่างรวดเร็ว นักลงทุนอาจจะต้องรอไปจนถึงช่วงไตรมาสที่สามที่สี่ของของปีงบประมาณ 2022 ในปี 2021 มูลค่าของหุ้นดิสนีย์ปรับตัวลดลงมามากกว่า 20% มีราคาปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $142.02 บริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายเพโลตอน (NASDAQ:PTON) อาจจะได้แรงหนุนขาขึ้นดันราคาหุ้นขึ้นมาในการเปิดตลาดซื้อขายวันนี้ หลังจากมีกระแสข่าวรายงานเมื่อวันศุกร์ว่ามีโอกาสที่บริษัทเพโลตอนจะถูกซื้อไปโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้มีบริษัทแอมาซอนและไนกี้ (NYSE:NKE) ผู้ที่จุดกระแสข่าวนี้ขึ้นมาคือนิตยสาร Wall Street Journal ในข่าวระบุว่าบริษัทแอมาซอนกำลังเจรจากับที่ปรึกษาถึงความเป็นไปได้ของดีลนี้ หลังจากมีรายงานของ WSJ ออกมา หุ้นเพโลตอนในวันศุกร์ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นไปได้มากกว่า 30% มีราคาปิดอยู่ที่ $24.60 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าราคา IPO ที่ $29 ในเดือนกันยายนปี 2019 ในช่วงของการระบาดโควิดเมื่อสองปีก่อน ผู้ใช้บริการของเพโลตอนเคยเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ในวันที่ผู้คนถูกล็อกดาวน์ ไม่สามารถออกไปฟิตเนสได้ มีท่อนหนึ่งที่รายงานอยู่ใน WSJ เขียนเอาไว้ว่า “ในช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ เป็นไปได้ที่เพโลตอนอาจจะยอมให้แอมาซอนหรือบริษัทที่จะดีลด้วยสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานหลักล้านคนของพวกเขาได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง วงการสุขภาพก็จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นไปอีก” นอกจากข่าวความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท เพโลตอนจะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณของไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดทำการ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขกำไรในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ $1,160 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.18
1. PfizerPFE Weekly TTM
2. Disney
DIS Weekly TTM
3. Peloton
PTON Weekly TTM
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- KBANK ตั้งบริษัทย่อย เข้าซื้อ Satang Pro ลุยตลาดคริปโต
- 美联储主席鲍威尔讲话限制金价反弹,ADP数据未达预期促使金价波动
- 印度通胀降至14个月低点,经济增速放缓与食品价格回落推升央行降息预期
- 特朗普关税威胁引发市场巨震:美元急升,墨西哥比索与加拿大元双双下挫
- 今天关注澳元兑美元(𝐀𝐔𝐃𝐔𝐒𝐃)
- 利差优势推动英镑兑欧元创两年半新高,英国央行谨慎宽松强化市场信心
- 以色列与真主党停火协议接近达成,特朗普交易反转引金价暴跌逾3%
- 日本第三季度经济增速上修至1.2%,央行加息时机临近引发市场高度关注
- USD/CAD แข็งค่าขึ้นหลังจากประกาศอัตราเงินเฟ้อขอ...
- 美联储降息预期降温:经济学家调高利率预测,特朗普政策或成未来经济隐忧
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- เบลูริเริ่มการลงมติไว้วางใจในงบประมาณ
- 日本上调第三季度经济增速预期,市场猜测央行可能加息,但消费疲软带来不确定性
- 俄乌局势升级与避险情绪叠加,黄金周三创逾一周新高
- 美元强势回归:欧元下跌超1%,特朗普关税威胁和美国制造业数据推高美元
- ราคาทองคำทรงตัวที่ $2,715 จากความไม่แน่นอนเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ย โดย
- 欧洲央行决议临近,欧元面临政治与经济双重压力,英镑关注GDP数据表现
- 黄金价格屡创新高,中国境内金饰价格突破800元关口,消费热度升温但更趋理性
- 以色列与真主党停火协议接近达成,特朗普交易反转引金价暴跌逾3%
- แนนซี เพโลซีขายหุ้น Apple และ Nvidia ซื้อออปชัน Alphabet และ Amazon โดย
- 加元走势受美元联动与CPI数据影响,油价波动及央行政策成关键变量
- 人民币失守7.3关口,美元强势回归与中国货币政策预期共同施压汇率
- 人民币失守7.27关口创四个月新低,强美元趋势再度抬头引市场关注
- บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ...
- 日本央行维持利率不变,美元兑日元升破155关口,专家预测未来或贬值至160
- 法国政府危机加剧拖累欧元走弱,美联储降息预期仍存支撑美元上涨
- 地缘政治紧张和美元回落推动金价反弹,现货黄金突破2660美元关口
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- 欧元区PMI逊于预期引发担忧,欧元跌至23个月低点,欧洲债券收益率普遍下滑
- 欧元兑美元逼近平价,市场未完全消化“特朗普交易”影响,德银与小摩看空欧元
- 欧元区PMI逊于预期引发担忧,欧元跌至23个月低点,欧洲债券收益率普遍下滑
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร