จุดศูนย์รวมความสนใจอยู่ที่ดอกเบี้ย
ประเด็นเรื่องทิศทางดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องหลักที่อยู่ในความสนใจ โดยหากมองใน มุมของวัฎจักรของดอกเบี้ยโลกเชื่อว่าน่าจะเริ่มเข้าสู่ขาลงแม้การประชุมธนาคาร กลางที่สำคัญหลายประเทศในรอบแรกของปีนี้จะคงอัตราดอกเบิ้ยนโยบายไว้ ตามเดิม แต่หากมองผ่านการตอบสนองของตลาดพบว่า Bond Yield ส่วนใหญ่ ปรับตัวลดลง โดยในสหรัฐ Bond Yield อายุไม่เกิน 5 ปี ปรับลดลงจากจุดสูงสุด แล้วราว 1% ส่วน 10 ปีปรับลดลงมากกว่า 1% ซึ่งน่าจะพอบอกได้ว่าตลาด คาดหมายว่าอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะลดลงในปี 2567 อาจอยู่ที่ประมาณ 1% ส่วนในบ้านเรา กระแสที่พุ่งไปที่การลดดอกเบี้ยก็รุนแรงขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ช้ากว่าที่คาด ขณะที่ Bond Yield1 ปี ปรับลดลงมาต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย องค์ประกอบดังกล่าวสะท้อนให้ เห็นโอกาสปรับลดดอกเบี้ยที่มีมากขึ้น และหากลดจริงก็จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น พัฒนาการของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ยังไม่มีประเด็นที่ออกนอกกรอบความ คาดหมาย ทำให้SET Index ยังน่าจะแกว่งตัวในกรอบใกล้เคียงเดิมที่ 1360 – 1376 จุด หุ้น Top Pick เลือก CBG,จุดศูนย์รวมความสนใจอยู่ที่ดอกเบี้ยแผนภูมิการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ MAJOR และ PTTEP Bond Yield สหรัฐฯที่ลงแรง คาดหวัง FED จะทยอยลดดอกเบี้ย ในอนาคต วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรง 1%-1.4% แม้ว่า FED จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ 5.50% และ ส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ววัน เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างไรก็ตาม Bond Yield สหรัฐฯที่ปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะ 10 ปีที่ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4% บวกกับการ รายงานผลประกอบการช่วง 4Q66 ที่ดีกว่าคาดของหลายบริษัท อาทิ Merck and co เป็นต้น ขณะที่นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ อาทิ Meta platform, Apple (NASDAQ:) และ Amazon ที่จะรายงานผลประกอบการวันนี้ แม้การประชุมเดือน มี.ค.67 ของ FED จะมีโอกาสคงดอกเบี้ยสูง อย่างไรก็ตามทิศทาง ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะทยอยปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่การ ประชุมเดือน พ.ค.67 เป็นต้นไป โดยมีเหตุผลสนับสนุน ดังนี้ • แม้ FED WATCH TOOL มีโอกาสคงดอกเบี้ยมากขึ้นในการประชุมเดือน มี.ค.67 ถึง 62% อย่างไรก็ตามตั้งแต่การประชุมเดือน พ.ค.67 FED WATCH TOOL คาดว่าจะลดดอกเบี้ยด้วยความน่าจะเป็น 60% และทยอย ปรับลดดอกเบี้ยลงเรื่อยๆจนถึงสิ้นปี รวมแล้วกว่า 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวมแล้วกว่า 1.50% จน ณ สิ้นปี 2567 คาดดอกเบี้ยจะอยู่ระดับ 4.0% • ผลต่าง Bond Yield สหรัฐฯ และ ดอกเบี้ยนโยบาย เทียบเท่าการลดดอกเบี้ย 1-6 ครั้งแล้ว สังเกตจาก Bond Yield สหรัฐฯ 6 เดือน(คาดหวังผลตอบแทน ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าซึ่งใกล้เคียงกับการประชุมรอบ พ.ค.67) อยู่ที่ 5.15% ซึ่งต่างจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.35%(มากกว่าการปรับลดดอกเบี้ย 1 ครังแล้ว) ขณะที่หากพิจารณาที่ Bond Yield 1 ปี และ 10 ปี นั้นต่างจาก อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ถึง 0.84% และ 1.63% เทียบเท่าได้กับในอนาคตมี โอกาสเห็นการลดดอกเบี้ยในมุมนักลงทุน 3 –6 ครั้ง สรุป การปรับตัวลงแรงของ Bond Yield สหรัฐฯ และผลประกอบการ 4Q66 ที่ดีกว่า คาด หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ระยะถัดไปคาด FED จะทยอยปรับ ลดดอกเบี้ย ดังเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้น หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรงระยะ ถัดไป ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็น่าจะได้รับแรงหนุนดังกล่าวเช่นกัน โดยวันนี้คาดกรอบการ เคลื่อนไหวของ index ไว้ที่ระดับ 1360 -1376 จุด กระแสปรับลดดอกเบี้ยไทยแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะ อย่างยิ่งในเดือน ธ.ค. 66 และอาจลากยาวมาถึงปีนี้ จนทำให้ก่อนหน้านี้ คลัง (สศค.) ได้ปรับลดประมาณการ GDP Growth ไทยปี 2566-67 โตเพียง 1.8%YoY และ 2.8%YoY ตามลำดับ ขณะที่เศรษฐกิจไทยใน 4Q66 อาจขยายน้อยสุดในรอบปีเพียง +1.4%YoY สำหรับ Indicator ล่าสุดสะท้อนผ่านดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 48.0 ร่วงลง จาก 49.1 ในเดือน ธ.ค.66 หลังคำสั่งซื้อลดลงมาก นอกจากนี้คาดการณ์เงินเฟ้อไทย เดือน ม.ค. ที่จะมีการรายงานในวันที่ 5 ก.พ. นี้ Consensus ประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับ - 0.8%YoY ซึ่งอยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ -0.83%YoY ถึงแม้ว่าจะอยู่ ในช่วงเทศกาลปีใหม่และมีโครงการ Easy E-Receipt เข้ามาช่วยหนุนการใช้จ่าย ภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีโอกาสขยายตัวได้น้อย อาจเป็นแรงหนุนให้ กนง. พิจารณาการ ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการประชุม กนง. ครั้งแรก ของปี 2567 (7 ก.พ. 67) อาจจะเห็นการคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% และมีสัญญาณว่าจะยัง ไม่ปรับลดดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ สะท้อนจาก Bond Yield ของไทยที่ยังไม่ได้อยู่ระดับต่ำ กว่าดอกเบี้ยนโยบายถึง 25 bps. ในทุกช่วงอายุ ยกเว้นเพียง Bond Yield ระยะยาว 20 ปีขึ้นไปที่สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายมาก สรุป ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยที่ส่งสัญญานชะลอตัวลงในเดือน ธ.ค.66 และและอาจ ลากยาวมาถึงปีนี้ มีโอกาสเป็นแรงหนุนให้ กนง. พิจารณาการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2567 ต่างชาติกลับมาซื้อหวัง SET สร้างฐาน ก่อนเข้าสู่ช่วงการ รายงานงบ 4Q66 ที่หนาแน่นขึ้น หลังตลาดหุ้นไทยผ่านเรื่องร้ายๆ มามาก วานนี้ต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยอีก ครั้ง 2.08 พันล้านบาท (เป็นยอดซื้อสุทธิที่สูงที่สุดในปีนี้) และยังเป็นการกระจายซื้อ สุทธิมากสุดจาก 5 โบรกเกอร์ที่เน้นลูกค้าเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด อาทิ CGS-CIMB ซื้อสุทธิ890 ล้านบาท, JPM 747 ล้านบาท, KKPS 695 ล้านบาท, UBS 212 ล้าน บาท, UOBKHST 165 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นไทยตั้งแต่สัปดาห์เข้าสู่การรายงานงบ 4Q66 ที่หนาแน่นขึ้น อาทิ หุ้น ADVANC (6 ก.พ. 67), INTUCH (7 ก.พ. 67), MINT (8 ก.พ. 67), SCCC, GPSC (9 ก.พ. 67) เป็นต้น เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q66 เพิ่มขึ้น 36.8%YoY แต่ลดลง -15.4%QoQ ซึ่งต้องรอติดตามว่ากำไรจะสูงหรือต่ำกว่าคาดอย่างไร? พร้อมกับจะสร้าง Dowside ต่อประมาณการปี 2567 มากแค่ไหน? แต่เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนเพียงช่วงสั้นๆ เพราะ Valuation ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น พร้อมกับ Fund Flow ที่สลับเข้ามา พยุงหนุนให้ฐานของ SET Index บริเวณ 1350 – 1370 จุด มีความแข็งแรงและน่า สะสมมากขึ้น กลยุทธ์ยังคงเน้นหุ้น 3 ธีม มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว น่าจะ Outperform ตลาดได้ในช่วงน • หุ้นปันผลสูง (หลบความผันผวนต่อตลาดได้ดี) แนะ AP, INTUCH, MAJOR, PTTEP • หุ้นคาดหวังดอกเบี้ยขยับลง (และ Bond Yield10 ปี สหรัฐลงมาเร็ว ล่าสุดต่ำ 4%) แนะ TIDLOR, SAWAD, TISCO • หุ้นอิงการท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่าไทย-จีน ถาวร เริ่มมี.ค. 66 นี้) แนะ AOT (BK:) MINT บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- PayPal ยื่นขอสิทธิบัตร ระบบการซื้อและโอน NFT
- 新西兰央行宣布住房贷款改革,意在减少房地产市场的违约风险
- 💬 美联储决议:美联储利率决定和经济预测将于明天公布。
- 中国央行宣布关键利率不做改变,进行适度流动性回笼
- ทรัมป์เตรียมพิจารณาเก็บภาษีเพิ่ม 10% จากจีน เริ่ม 1 ก.พ. โดย
- 本周一欧洲股市出现了显著上涨,科技股止住上周颓势领涨板块
- 低迷的油价带来高压,沙特降低阿拉伯轻质原油在亚洲的售价
- 暴雨袭击中美洲和南美洲,多个国家和地区受到影响
- ทำกำไร 226% จากการลงทุนตาม AI ของเราในปี 2025 โดย
- 中国汽车公司呼吁对欧盟汽油车提高关税,作为对电车限制出口的反击
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- Analysis of GBP/USD (February 17, 2025)
- 德国4月工业出现显著下滑,建筑行业疲软拖累整体数据
- 澳大利亚宣布全国最低工资将上调近4%以持平通货膨胀
- 暴雨袭击中美洲和南美洲,多个国家和地区受到影响
- ทองฟิวเจอร์ร่วงหลุด $2,620 ซื้อขายเบาบาง โดย InfoQuest
- 德国联邦税收收入同比提高2.6%,预计今年经济将迎来回春
- 奥地利机构NOYB将对谷歌提起诉讼,指控其在浏览器中违法跟踪用户获取信息
- 本周一欧洲股市出现了显著上涨,科技股止住上周颓势领涨板块
- 5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ข้อมูล CPI สหรัฐฯ คำแถลงของ เด กินโดส (ECB) โดย
- 韩国央行行长宣布利率不变,暗示年底前将开始降息
- 惠誉评级预测印度将会再次降息,通胀将会进一步下降
- 泰国内阁推出一系列新政策以鼓励旅游业,牺牲短期换取长期收益
- UM Social : 方便易用、更新不断、轻松跟单、回报
- 中国央行宣布关键利率不做改变,进行适度流动性回笼
- 欧洲股市出现长线资金流入,高盛认为依旧有上升空间
- 澳大利亚宣布全国最低工资将上调近4%以持平通货膨胀
- Friend.tech ทำรายได้ค่าธรรมเนียมมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง
- 墨西哥总统宣布将进行宪法改革,墨西哥比索大幅下跌
- 墨西哥总统宣布将进行宪法改革,墨西哥比索大幅下跌
- 巴西大力度投资稀土产业,计划组建一个独立的稀土供应链
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร