Paxos เผชิญกับการฟ้องร้องของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ จากการออก Binance USD (BUSD)

　　สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้แจ้งบริษัท Paxos ว่ามีแผนจะฟ้องร้อง เนื่องจากละเมิดกฎหมายคุ้มครองนักลงทุนจากการออกเหรียญ Stablecoin ของ Binance USD (BUSD) ว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน

　　จากการรายงานของ The เผชิญกับการฟ้องร้องของกลตสหรัฐฯจากการออกธนาคารกลางช่วยเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์หรือไม่ก็ใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมในอนาคตWall Street Journal เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ระบุว่า SEC ได้ส่งหนังสือไปยัง Paxos เพื่อแจ้งเตือนว่า SEC จะทำการดำเนินคดีกับบริษัทในเร็ว ๆ นี้ โดยกล่าวว่า BUSD เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ทำการจดทะเบียน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของ SEC ได้ออกจดหมายถึง Paxos ซึ่งทางหน่วยงานดังกล่าวใช้เพื่อแจ้งให้บริษัทและบุคคลทราบถึงการดำเนินการบังคับใช้ โดยได้ประกาศอ้างว่า Binance USD ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Paxos ออกและแสดงรายการนั้นเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้ลงทะเบียน

　　BUSD เป็นเหรียญ Stablecoin ของ Binance ที่ตรึงกับเงินดอลลาร์ในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง Binance และ Paxos ประกาศความร่วมมือเพื่อเปิดตัวในปี 2019 Binance กล่าวว่า BUSD ออกและเป็นเจ้าของโดย Paxos และอนุญาตให้ใช้เฉพาะแบรนด์ของตนเท่านั้น ซึ่ง BUSD เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยมูลค่าตลาดของ BUSD อยู่ที่มากกว่า 16 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko อีกทั้ง Paxos ยังออก Stablecoin ของตัวเองที่ชื่อว่า Pax Dollar ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดประมาณ 897 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko

　　SEC ได้เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้ crypto กับผู้เข้าร่วมตลาดรายใหญ่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แพลตฟอร์ม Kraken ของ Payward Inc. ตกลงที่จะหยุดให้บริการ stake ในสหรัฐฯ และจ่ายค่าปรับ 30 ล้านดอลลาร์ให้กับ SEC

　　ก่อนหน้านี้ SEC ไม่เคยดำเนินการบังคับใช้กับผู้ออก Stablecoin รายใหญ่ แต่เมื่อหน่วยงานเมื่อปีที่แล้วได้ขยายหน่วยบังคับใช้กับตลาด crypto หน่วยงานกล่าวว่าStablecoins จะเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ

　　Gary Gensler ประธาน SEC กล่าวว่า Stablecoins ควรมีกรอบการกำกับดูแลที่เฉพาะเจาะจง และการออกควรจำกัดเฉพาะธนาคารเท่านั้น สภาคองเกรสไม่ได้ผ่านกฎหมายดังกล่าว ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลมีดุลยพินิจมากขึ้นในการตรวจสอบตลาด

　　อีกทั้งยังได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับโทเค็นดิจิทัลหลายสิบรายการในช่วงหกปีที่ผ่านมา หน่วยงานดังกล่าวกล่าวหาว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นประเภทของการลงทุนที่ต้องลงทะเบียนกับ SEC ก่อนที่จะสามารถขายต่อสาธารณะได้ โดยทั่วไปการลงทะเบียนเกี่ยวข้องกับการออกรายละเอียดทางการเงินและการเปิดเผยความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการลงทุน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ：

มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

Exchangeบล็อกเชน Exchange ที่เกี่ยวข้อง อยู่ในการกำกับดูแล