ตลาดเอเชียได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนที่ผ่อนคลายลง โดย

นักลงทุนในตลาดเอเชียเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความรู้สึกเชิงบวกที่แข็งแกร่งหลังจากปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในสหรัฐฯ ซึ่งข้อมูลการจ้างงานที่กระตุ้นความเชื่อมั่นใน "การลงจอดอย่างนุ่มนวล" สําหรับเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง ซึ่งช่วยเสริมการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดตราสารทุนทั่วโลกทําผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยหลายแห่งทําสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หรือสูงสุดในรอบหลายปี แม้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทําให้เกิดความพ่ายแพ้ของตลาด เช่น การทํากําไร ความกังวลในการประเมินมูลค่า และความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่แนวทาง "buy the dip" ที่มีอยู่ทั่วไปทําให้ตลาดลดลงทั้งระยะสั้นและขอบเขตจํากัด

ในการพัฒนาทางการเมืองในยุโรปการเลือกตั้งของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ชี้ไปที่รัฐสภาที่แขวนอยู่โดยมีพันธมิตรฝ่ายซ้ายเป็นผู้นําและป้องกันไม่ให้พรรคแรลลี่แห่งชาติขวาจัดเข้าควบคุมรัฐบาล ผลลัพธ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อช่วงการซื้อขายช่วงต้นในเอเชียในวันจันทร์

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยดัชนี Nikkei 225 ทําสถิติสูงสุดใหม่ที่ 41,ตลาดเอเชียได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนที่ผ่อนคลายลงโดยแนวโน้มทองคำแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศวันนี้100 จุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ ในทํานองเดียวกันดัชนี MSCI Emerging Market และ MSCI Asia ex-Japan ได้บรรลุระดับสูงสุดในรอบสองปี

ดัชนีอื่นๆ เช่น MSCI World, และ Nasdaq ก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยหุ้นยูโรโซนแตะระดับสูงสุดในรอบ 23 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว และ FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม

ปฏิทินเศรษฐกิจของวันจันทร์สําหรับเอเชียและแปซิฟิกค่อนข้างเบา โดยมีข้อมูลการปล่อยสินเชื่อ การค้า และบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่น รวมถึงตัวเลขค่าล่วงเวลาอยู่ในความสนใจ นอกจากนี้ Eli Remolona ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Ralph Recto มีกําหนดจะพูดในฟอรัมธุรกิจ

ข้อมูลค่าล่วงเวลาของญี่ปุ่นเป็นที่สนใจเป็นพิเศษในเดือนนี้ เนื่องจากการสํารวจสหภาพแรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่ามีการปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย 5.1% อย่างมีนัยสําคัญในปีนี้ ซึ่งมากที่สุดในรอบ 33 ปี และสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ประมาณ 2% อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ลดลงในเดือนพฤษภาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาที่สูงขึ้นกําลังส่งผลกระทบต่อกําลังซื้อของผู้บริโภค

สถานการณ์นี้นําเสนอความท้าทายสําหรับธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ระมัดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจที่ยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่

เหตุการณ์สําคัญในเอเชียในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมนโยบายของธนาคารกลางในนิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และมาเลเซีย รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจากจีน

นักลงทุนทั่วโลกจะจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ที่จะครบกําหนดในวันพฤหัสบดี และคําให้การของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell ในวันอังคารและวันพุธสําหรับทิศทางตลาดต่อไป

สํานักข่าวรอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!