5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ครึ่งแรกของปีที่ร้อนระอุใกล้จะจบลง โดย

© Reuters

โดย Noreen Burke

– ธนาคารกลางยุโรปจะจัดการประชุมประจำปีในโปรตุเกส โดยประธานาธิบดีคริสติน ลาการ์ด พร้อมด้วยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ และผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ แอนดรูว์ ไบลีย์ จะเข้าร่วมการอภิปรายในวันพุธ ถือว่าครึ่งปีแรกแห่งความวุ่นวายในตลาดกำลังจะสิ้นสุดลง โดยนักลงทุนยังคงสงสัยว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าตลาดจะผ่อนคลายหรือมีความผันผวนมากขึ้นกันแน่ ปฏิทินเศรษฐกิจในรอบนี้ประกอบด้วยดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดจับตามอง พร้อมด้วยข้อมูลตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดจากยูโรโซนและ PMI ของจีน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์นี้

1. ฟอรั่มซินตรา (Sintra Forum)

ฟอรั่มสามวันของ ECB ในเมืองซินตราของประเทศโปรตุเกสจะเริ่มในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางต่าง ๆ จะเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายทศวรรษหรือไม่ และนั่นอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

โดยฟอรั่มจะมุ่งเน้นไปที่ "ความท้าทายของนโยบายการเงินในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

โดยในวันพุธ นักลงทุนจะจับตาดูการอภิปรายของ ลาการ์ด พาวเวลล์ และไบลีย์ อย่างใกล้ชิดเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่หัวหน้าธนาคารกลางมองการแลกเปลี่ยนระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อในขณะที่ยังคงพยายามให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจโลกจะมีทางออกที่นุ่มนวล บอบช้ำน้อยที่สุด

นักลงทุนยังจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ ECB 

2. ครึ่งแรกของปีที่ร้อนระอุใกล้จะจบลง

ถือว่าเป็นหกเดือนที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ความวุ่นวายของตลาดและสงครามได้กระตุ้นเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นกำลังใกล้จะสิ้นสุดลง ทำให้นักลงทุนต้องไตร่ตรองถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง

S&P 500 ลดลงประมาณ 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี และพันธบัตรดีขึ้นเล็กน้อย ตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ ซึ่งวัดโดย Vanguard Total Bond Market Index Fund (NASDAQ:BND) ) ลดลง 10.8% สำหรับปีจนถึงปัจจุบัน

ความคาดหวังของนักลงทุนยังคงไม่แน่นอนระหว่างอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดจากนโยบายการเงินของเฟด มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่าความผันผวนของตลาดจะบรรเทาลงในเร็ว ๆ นี้

“อัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น และนั่นหมายความว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นและเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้แรงกดดันต่อเศรษฐกิจลดลงแต่ความกลัวต่อภาวะถดถอยจะเพิ่มขึ้น” Seema Shah หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของ Principal Global Investors กล่าวกับรอยเตอร์ส

"นอกจากนี้ยังมีสัญญาณของความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้"

3. ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเป็นอย่างไรท่ามกลางวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลของเดือนพฤษภาคมที่จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เพื่อบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังเย็นลงหรือไม่

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า คำสั่งซื้อสินค้าคงทน จะชะลอตัว ความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค จะแย่ลงไปอีก และ ดัชนี PMI ภาคการผลิต จะอ่อนตัวลงอีก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้เพิ่มความกังวลที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

รายงานเกี่ยวกับ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย และ ดัชนีราคาบ้านใน 20 รัฐจากรายงานของ S&P/CS ควรแสดงให้เห็นว่าอัตราการจำนองที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด

เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีกำหนดจะเข้าประชุมในสัปดาห์นี้ เช่น จอห์น วิลเลี่ยมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก แมรี เดลี ประธานธนาคารกลางซานฟรานซิสโก,ปัจจัยที่ต้องจับตาครึ่งแรกของปีที่ร้อนระอุใกล้จะจบลงโดยig foreign exchange ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ และ เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ 

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว Daly ที่เป็นผู้กำหนดนโยบายที่สนับสนุนนโยบายผ่อนคลายได้เอ่ยว่า เธอเห็นด้วยที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานในการประชุมของเฟดในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

4. อัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซน

ยูโรโซนจะเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อสำหรับเดือนมิถุนายนในวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานและอาหารยังคงพุ่งทะยาน

โดยตัวเลขเงินเฟ้ออัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนพฤษภาคมแตะระดับ 8.1% สูงกว่าเป้าหมายประจำปีที่ 2% ของ ECB ถึงสี่เท่า

ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มความร้อนแรงให้กับการอภิปรายว่า ECB ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่านี้หรือไม่ หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมที่สี่จุด ซึ่งจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกในการกระชับนโยบายการเงินในรอบกว่าทศวรรษ

ตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศ สเปน และ เยอรมันนี จะเปิดเผยในวันพุธ

ในขณะเดียวกัน ข้อมูล ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของยูโรโซนที่จะเผยแพร่ในวันเดียวกันนั้น คาดว่าจะยังคงตกต่ำ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและสงครามในยูเครน

5. ข้อมูลจากประเทศจีน

จีนมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกำไรของอุตสาหกรรมในวันจันทร์ ตามด้วยข้อมูล PMI ใน วันพฤหัสบดี และ วันศุกร์ ตามลำดับ

ตัวเลขที่เป็นบวกอาจให้ความหวังในการเอาชนะตลาดการเงิน

นโยบายโควิดซีโร่ที่ทำให้เกิดมาตรการล็อคดาวน์และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ผลักดันให้ราคา ทองแดง เติบโตเกือบ 10% ในสองสัปดาห์ในเซี่ยงไฮ้

แต่การล็อกดาวน์ได้ผ่อนคลายลง และหากข้อมูลชี้ให้เห็นถึงการกลับสู่การเติบโต มันจะเป็นสัญญาณที่น่ายินดีสำหรับเศรษฐกิจ และสำหรับผู้ที่มองว่าหุ้นจีนเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา

--สำนักข่าวรอยเตอร์สสนับสนุนรายงานนี้

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!