ตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะตอบสนองอย่างไรกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลอดปี 2021 ส่วนใหญ่ ธนาคารกลางและรัฐบาลสหรัฐฯ โยนแพะเรื่องราคาที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานขอควดให้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มองว่าปัญหาเงินเฟ้อเป็นเพียงเรื่อง "ชั่วคราว" เท่านั้น คำนี้ได้กลายเป็นคำยอดฮิต ที่ผู้ไม่เห็นด้วยกับเฟดได้วิจารณ์นโยบายการเงิน ที่ผ่อนคลายมากจนเกินไป พวกเขากล่าวโทษธนาคารกลางฯ ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่าสี่ทศวรรษ ในช่วงปลายปี 2021 เมื่อสมาชิกของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ได้ออกมายอมรับว่าปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเป็นมากกว่าคำว่าชั่วคราว แต่ถึงกระนั้นเฟดยังคงดำเนินนโยบายการเงินด้วยความล่าช้า คลานไปราวกับหอยทาก ที่ค่อยๆ จัดการกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างใจเย็น พวกเขายังคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำมาจนถึงต้นเดือนมีนาคม 2022 ในเดือนนั้น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% และ 11.2% ตามลำดับ ซึ่งยังคงเป็นจุดสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ แม้ว่าเฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาก็ยังคงตามหลังอัตราเงินเฟ้อ อยู่มาก ครั้งสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินดิจิทัลยังไม่เป็นที่รู้จักมากมายนัก ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีใครตอบได้อย่างมั่นใจว่าหากการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดสกุลเงินดิจิทัลบ้าง อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 และพุ่งสูงขึ้นในปี 2021 ส่งเสริมให้สกุลเงินดิจิตอลสามารถทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 ฝั่งผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลหลายคนมองว่าสินทรัพย์ประเภทนี้ถือเป็นหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจที่กัดเซาะเงินเฟียตด้วยการขยายปริมาณเงินในระบบ ทำให้อุปทานของสกุลเงินดิจิทัล ที่มีอยู่อย่างจำกัดกลายเป็นทางเลือกแทนเงินเฟียต ที่สามารถผลิตเงินออกมามากเท่าไหร่ก็ได้ ในวันที่ปริมาณเงินในระบบมีอยู่จนล้นตลาดก็ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น อ้างอิง: Barchart กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นจุดสูงสุดตลอดกาลของบิทคอยน์ที่ $68,ตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะตอบสนองอย่างไรกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯแพลตฟอร์มฟอเร็กซ์ถูกกฎหมายหรือไม่906.48 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 อ้างอิง: Barchart ในขณะเดียวกันราคาอีเทอเรียมปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4,865.426 ก่อนที่จะปรับตัวลดลง สร้างจุดต่ำสุดล่าสุดในวันที่ 24 มกราคม 2022 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% พร้อมประกาศแผนดึงสภาพคล่องคืน แม้ว่าเฟดจะพูดถึงการเติบโตของอัตราเงินเฟ้ออย่างชัดเจน แต่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลับยังวิ่งอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุด มากกว่าที่จะวิ่งเข้าหาจุดสูงสุดตลอดกาล สภาพคล่องของธนาคารกลางที่เอ่อล้น และปริมาณเงินในระบบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมากราวกับสึนามิ ได้เพาะพันธุ์เมล็ดพันธุ์แห่งเงินเฟ้อ เริ่มขยายพันธุ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 และผลิบานในปี 2021 ในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2022 เฟดกำลังจัดการกับเงินเฟ้ออย่างจริงจัง แต่ก็ดันมีสงครามระหว่างรัสเซียยูเครนเพิ่มขึ้น ผลักดันเงินเฟ้อให้ยิ่งเติบโตได้รวดเร็วมากกว่าเดิม แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากทำขาขึ้นมาตลอดหลายปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ใกล้จุดสูงสุดมากกว่าจุดต่ำสุด ความนิยมในสกุลเงินบิทคอยน์ อีเทอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากมายกำลังบอกเราว่านโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเงินเฟ้อ เมื่อพวกเขาเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐก็กลับมา และส่งให้อีเทอเรียมกลับลงไปอยู่ที่ 2,830 ดอลลาร์ในวันที่ 3 พฤษภาคม ในขณะที่บิทคอยน์วิ่งอยู่ที่ 38,325 ดอลลาร์ จนถึงตอนนี้ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวคานเงินเฟ้ออย่างที่หลายคนคาดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดกำลังตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ด้วยการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาได้ง่ายๆ ในตอนนี้ แม้สกุลเงินดิจิทัลจะเป็นสินทรัพย์ที่กำลังเติบโตไปสู่กระแสหลัก แต่ก็ยังขาดสภาพคล่องเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น พันธบัตร สกุลเงินเฟียต หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ หลายคนก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับคุณค่า และประโยชน์ใช้สอยของสกุลเงินดิจิทัล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่งานคาร์นิวัลประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway (NYSE:BRKa) ในเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของบริษัทกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลว่า: “ถ้าคุณบอกผมว่าคุณเป็นเจ้าของบิทคอยน์ทั้งหมดในโลก และคุณเสนอขายให้ผมในราคา $25 ผมจะไม่รับมันเพราะผมไม่รู้ว่าจะเอาบิทคอยน์ไปทำอะไร? ผมคงต้องขายคืนให้คุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย” บัฟเฟตต์ไม่เชื่อว่าบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลเป็น "สินทรัพย์ที่มีประสิทธิผล" ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) หุ้นส่วนและเพื่อนสนิทของบัฟเฟตต์พูดอย่างตรงไปตรงมาต่อสกุลเงินดิจิทัลว่า: “ในชีวิตของผม ผมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่โง่เขลา ชั่วร้าย และทำให้ผมดูแย่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ซึ่งบิทคอยน์เป้นทั้งสามสิ่งที่กล่าวมานั้น” ชาร์ลียังกล่าวต่อไปอี่กว่า“เหตุผลที่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลดูเป็นเรื่องที่โง่เง่าเพราะมันยังคงมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์ และเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่บ่อนทำลายระบบธนาคารกลางสหรัฐ ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน เขาฉลาดพอที่จะแบนบิทคอยน์ในประเทศจีน” ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลมากมายก็ได้ออกมาวิจารณ์คุณปู่ทั้งสองเป็นวงกว้าง แม้แต่อีลอน มัสก์ ยังทวีตเย้ยหยันตำนานทั้งสองว่า: “ฮ่าฮ่า เขาพูดคำว่าบิทคอยน์หลายครั้งมาก” อนาคตของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลยังคงเป็นข้อถกเถียงระหว่างผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้าน หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลคือการสร้างสภาพคล่อง โปร่งใส และไม่สามารถก้าวก่ายกับระบบอุปทานของสกุลเงินนั้นๆ ได้ ตราบใดที่เงินเฟียตยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเพิ่มปริมาณเงินในระบบได้อย่างไม่จำกัด ตราบนั้นก็จะมีคนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดิจิตอล แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลในอดีต ที่เคยระบุเอาไว้ว่าท้ายที่สุดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะจบลงอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลมีอายุเพียงสิบกว่าปีและไม่มีวงจรเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การซื้อขายและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจังได้เกิดขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมาตั้งแต่ CME ได้เปิดตัว Bitcoin Futures เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบิทคอยน์ การยอมรับในสกุลเงินดิจิทัลจะช่วยให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่สงครามระหว่างผู้ต่อต้านและผู้สนับสนุนมีแนวโน้มที่จะขัดขวางการย้ายไปสู่สินทรัพย์กระแสหลักของสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัลยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่มีการเก็งกำไรสูง สถาบันการเงินและรัฐบาลจะยังคงสร้างอุปสรรคขัดขวางการเติบโต ในขณะที่ผู้สนับสนุนและนักเก็งกำไรคริปโตจะหาทางหลีกเลี่ยง ความผันผวนในแต่ละวันจะกลายเป็นรากฐานให้กับนักลงทุนรุ่นถัดๆ ไปได้เข้ามาตัดสินว่าควรให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นอนาคต หรือควรสร้างสิ่งใหม่ที่ทั้งฝั่งอนุรักษ์นิยม และเสรีนิยมสามารถยอมรับร่วมกันได้ โดยสรุปแล้ว เรากำลังจะได้เป็นสักขีพยานว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสร้างผลกระทบอย่างไรให้กับตลาดสกุลเงินดิจิทัลภาพรวมตลาดสกุลเงินดิจิทัลในปัจจุบัน
Bitcoin Daily Chart.
Ethereum Daily Chart.
จนถึงตอนนี้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ยังไม่ฟื้น
ความเห็นของคนดังที่มีต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล
เพราะไม่มีประวัติศาสตร์การลงทุนที่ยาวนาน จึงคาดว่าความผันผวนจะคงอยู่ต่อไป
-
ก่อนหน้า
-
ต่อไป
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- อีลอน มัสก์ เผชิญหน้ากับแอปเปิ้ลและ OpenAI
- 欧洲央行和英国央行释放降息信号,经济数据成政策调整关键因素
- 日本政坛震荡再现,石破茂与野田佳彦展开首相之争,日元贬值日股看涨
- 美元强势或将消退,纽元与原油市场前景分化,多重因素加剧全球市场波动
- ARK ของ Cathie Wood ขายหุ้น Tesla ซื้อหุ้น AMD และ GitLab โดย
- 特朗普关税威胁重燃,中美墨加贸易关系面临新挑战,全球经济或受冲击
- 10月工业企业利润降幅显著收窄,装备制造业和高技术制造业引领回升
- 特朗普关税阴影笼罩,欧洲多国央行掀起降息潮以应对经济下行压力
- ดัชนี CPI ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือนธ.ค. เปิดทางให้ BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ย โดย
- 俄乌冲突升级黄金飙升!美国松绑乌克兰武器使用政策引发全球关注
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- เปิด 3 เกณฑ์ใหม่ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
- 美国初请失业金人数降至近七个月新低,11月非农或成美联储政策关键参考
- 石油巨头担忧中东冲突,预期石油需求将增长,能源转型压力加剧
- 黄金遭遇十三届大选最差表现!特朗普政策引发市场避险资产降温
- หุ้นผู้ผลิตชิปในจีนพุ่งแรงจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี EUV Lithography โดย
- 韩国11月出口强劲复苏,特朗普贸易政策或为未来经济埋下隐忧
- 美元强势或将消退,纽元与原油市场前景分化,多重因素加剧全球市场波动
- 特朗普上任或将推动三大能源举措,全球油气市场或迎震荡
- 5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ความเชื่อมั่นนักลงทุน คำแถลงการณ์จาก ECB โดย
- 白宫或迎首位“加密货币沙皇”传闻,比特币价格冲刺9.5万美元
- 拜登敦促特朗普重新考虑对墨加关税计划,各方强烈反弹呼吁避免贸易冲突升级
- 马斯克财富突破4000亿美元 成全球首富 特斯拉与SpaceX助力其财富飙升
- Ec Markets·安盈
- 非农就业数据前瞻:11月或显示强劲反弹,12月美联储降息仍存不确定性
- 美国PPI意外加速上涨,食品价格推高通胀,PCE涨幅预期温和
- 人民币跌破7.30关口,美联储沃勒倾向于12月降息,美元下跌风险上升
- เปิด 3 เกณฑ์ใหม่ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
- 美国初请失业金人数降至近七个月新低,11月非农或成美联储政策关键参考
- 日本政坛震荡再现,石破茂与野田佳彦展开首相之争,日元贬值日股看涨
- 美国CEO离职潮加剧,英特尔与Stellantis两大巨头迎来高管更替
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร