หุ้นเอเชียร่วง ผลจากการล็อกดาวน์ในจีน  โดย

© Reuters.

โดย Gina Lee

– หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในเช้าวันพุธ อันเนื่องมาจากผลประกอบการของบริษัทที่ออกมาคละกัน การระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งล่าสุดในจีน และแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเชิงรุก ล้วนบ่งชี้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นถดถอยและความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดน้อยลง

นิคเคอิ 225 ลดลง 1.84% เมื่อเวลา 22:30 น. ET (2:30 น. GMT) และ KOSPIของเกาหลีใต้ลดลง 1.26%

ASX 200ในออสเตรเลียร่วงลง 0.66% โดย ดัชนีราคาผู้บริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และ 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในไตรมาสแรกของปี 2022

ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 0.73%

เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.45% ในขณะที่ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE ขยับขึ้น 0.12%

การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องได้ทำให้พันธบัตรรัฐบาลในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์พุ่งขึ้น ในขณะที่พันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันอังคารซึ่งนำโดยพันธบัตรอายุสั้น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะสั่นคลอนหลังจาก S&P 500 ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์และ Nasdaq 100 ดิ่งลงสู่ระดับที่เห็นล่าสุดในปี 2021

ความกังวลยังเพิ่มมากขึ้นต่อสถานการณ์ที่รัสเซียอาจหยุดการส่งก๊าซไปยังยุโรปและมันจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่ม ซึ่งจะตามมาด้วยการปฏิบัติตามคำพูดที่ว่าจะหยุดการส่งก๊าซไปยังประเทศที่ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นรูเบิลรัสเซีย โดยจะเริ่มการหยุดส่งอุปทานไปยังโปแลนด์และบัลแกเรียในวันนี้

ผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คือจะเห็นว่าค่าเงินยูโรแตะระดับที่อ่อนแอที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2017  น้ำมันแตะระดับ 102 ดอลลาร์และทองคำทรงตัวที่ระดับ 1,หุ้นเอเชียร่วงผลจากการล็อกดาวน์ในจีน โดยทักษะการดำเนินงาน905 ดอลลาร์ขณะที่ บิทคอยน์ ขาดทุนเล็กน้อย ประมาณ 38,100 ดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน รายได้จากบริษัทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Alphabet Inc. (NASDAQ:GOOGL) และ Texas Instruments Inc. (NASDAQ:TXN) ก็ทำให้นักลงทุนผิดหวังและทำให้แนวโน้มตลาดแย่ลงไปอีก กำไรใน Microsoft Corp . (NASDAQ:MSFT) ในการซื้อขายช่วงปลาย ผลลัพธ์ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอผลกำไรด้านเทคโนโลยีจากบริษัทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Meta Platforms Inc. (NASDAQ:FB ) Amazon.com Inc. (NASDAQ:AMZN) และ Apple Inc. (NASDAQ:AAPL)

ทั้งหมดนี้บั่นทอนอารมณ์ของนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงินของเฟดที่เข้มงวดขึ้นและการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีน

Lori Calvasina หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านหุ้นของ RBC Capital Markets LLC ในสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับ บลูมเบิร์กว่า “เราทราบดีว่าขณะนี้ความเชื่อมั่นอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่”

“เป็นตลาดที่สับสนมาก ตลาดขาดความเชื่อมั่นที่จะโน้มน้าวให้กับผู้คนที่ต้องการจะซื้อสินทรัพย์ในเวลานี้เลย”

ธนาคารกลางญี่ปุ่น จะส่งมอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ะตามมาด้วยกระดานข่าวเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรปในวันเดียวกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูล รวมถึง ตัวเลข GDP สำหรับไตรมาสแรกของปี 2022 ในวันพฤหัสบดีด้วย

ที่อื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีนกล่าวว่าจะยกระดับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลังจากการประชุมคณะกรรมการกลางด้านการเงินและเศรษฐกิจเมื่อวันอังคาร ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน นี่เป็นการแสดงการสนับสนุนทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของรัฐบาล เนื่องจากยังคงมีการการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ยังคงดำเนินต่อไปในบางส่วนของเซี่ยงไฮ้ และยังมีการตรวจหาเชื้อจำนวนมากในกรุงปักกิ่ง

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!