ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสู้โอไมครอน ตลาดทุนพักหายใจรอลุ้นตัวเลขนอนฟาร์ม
ถึงแม้ว่าเหล่าบรรดาแพทย์ทั่วโลกจะเป็นกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่นาม “โอไมครอน” แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่คิดเช่นนั้น สังเกตได้จากการปรับตัวกลับขึ้นไปของตลาดหุ้น 2% และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อันที่จริง เราทุกคนต่างทราบแก่ใจดีอยู่แล้วว่าผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรกของสหรัฐฯ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปรากฎ และเราก็ต้องอยู่ร่วมกับมันไม่ต่างจากสองสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้ตลาดลงทุนจึงทำเป็นใจดีสู้เสือ ไม่อยากจะคิดว่าโอไมครอนนั้นเป็นภัยจนกว่าจะได้เห็นข้อมูลจริงๆ ว่าโอไมครอนมีความร้ายกาจมากน้อยแค่ไหน แน่นอนว่าทันทีที่มีข้อมูลในส่วนนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ อาจนำไปสู่มาตรการคุมเข้มทางสังคม และจะฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยลง แต่เพราะตอนนี้อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ก็สูงแล้ว และเหล่านักการเมืองก็ยังไม่มองว่าโอไมครอนจะเป็นภัยคุกคามถึงขนาดต้องกลับไปล็อกดาวน์ ดังนั้นตลาดลงทุนจึงเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนคือความกังวลของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อ และมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือนใหม่ อย่าลืมว่าเรามีนัดกันที่จะมารอดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก่อนหน้า ซึ่งวันนี้เป็นคราวของเดือนพฤศจิกายน สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นตัวเลขการจ้างงานฯ ออกมาเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เฉพาะตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (220,ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสู้โอไมครอนตลาดทุนพักหายใจรอลุ้นตัวเลขนอนฟาร์มแพลตฟอร์ม Huiyuan Forex เป็นทางการหรือไม่000 คน) แต่เส้นค่าเฉลี่ยในรอบสี่สัปดาห์ล่าสุดของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ ยังปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 นอกจากนี้ จำนวนรวมของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานทั้งหมดยังปรับตัวลดลงต่ำกว่าสองล้านคนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดอีกด้วย อัตราการถูกเลิกจ้างงานก็อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบยี่สิบแปดปี ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา นักเศรษฐศาสตร์จึงเชื่อว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่จะรายงานในวันนี้เวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 531,000 ตำแหน่งเป็น 550,000 ตำแหน่ง และถ้ายิ่งตัวเลขการจ้างงานฯ สามารถขยับขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์นี้ จะยิ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น การที่ตลาดแรงงานยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญคือสาเหตุหลักที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ เพราะความต้องการเงินค่าจ้างที่สูงขึ้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินเฟ้อ และการระบาดของเดลตาก่อนหน้านี้ก็ยังสร้างปัญหาให้กับซัพพลายเชนซ้ำหนักเข้าไปอีก ดังนั้นถ้าหากตัวเลขการจ้างงานฯ ในวันนี้ออกมาดี จะยิ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจร่นระยะเวลาของแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันที่ 14-15 ธันวาคมให้จบเร็วขึ้น ยิ่งเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และเจเน็ต เยลเลน รมต. คลังกล่าวต่อสภาคองเกรสว่าถึงเวลาต้องเลิกใช้คำว่า “เงินเฟ้อเป็นปัจจัยชั่วคราว” แล้ว ยิ่งจะทำให้ตลาดทุนคิดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจมีการขยับขึ้น แผนภูมิภาพแบบจุด (dot-plot) จากการประชุมครั้งก่อนก็ชี้ชัดแล้วว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็ว ทั้งหมดนี้ต่างเป็นเหตุผลสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐทั้งสิ้น สำหรับตอนนี้ ธนาคารกลางที่อยู่ฝ่ายทำตามกลไกเศรษฐศาสตร์มากกว่าปล่อยให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินไปเรื่อยๆ อย่างเช่นธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ยังไม่ประเมินว่าการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นภัยคุกคาม แต่ถ้ามีข่าวหรือได้รับการยืนยันแล้วว่าโอไมครอนมีความรุนแรงมากกว่าโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้า เชื่อได้เลยว่าประเทศอื่นๆ จะสั่งล็อกดาวน์เร็วกว่าสหรัฐอเมริกา และจะทำให้สกุลเงินของพวกเขาอ่อนค่าลงก่อนดอลลาร์สหรัฐ สถานการณ์ในช่วงต้นสัปดาห์ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าถึงแม้ดอลลาร์จะถูกเทขายจากข่าวโอไมครอน แต่สกุลเงินอื่นก็ไม่สามารถกลับมาแข็งค่าสู้ได้เร็ว นอกจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานฯ ของอเมริกา แคนาดาก็จะมีการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานและจ้างงานด้วยเช่นกัน การคาดการณ์ทิศทางของดอลลาร์แคนาดาจากนักวิเคราะห์ก็ไปในทิศทางเดียวกันกับอเมริกาคือคาดว่าอัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเพิ่มขึ้นเพียงในระดับกลางๆ เท่านั้น กราฟ USD/CAD เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบสองเดือนเพราะความต้องการดอลลาร์สหรัฐที่มากขึ้น และราคาน้ำมันที่ไม่ได้ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดมากเท่าไหร่ หลังทราบผลการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่ตัดสินใจคงอัตราการผลิตน้ำมันเอาไว้ดังเดิมที่ 400,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า สกุลเงินที่ปรับตัวขึ้นได้มากที่สุดเมื่อวานนี้คือสกุลเงินปอนด์ และสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดคือยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลีย อันที่จริงตัวเลขทางเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปถือว่าดี ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนตุลาคมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และอัตราการว่างงานที่ลดลง แต่ข่าวดีเหล่านี้กลับไม่มีใครพูดถึงเมื่อเทียบกับการอาละวาดของโอไมครอนในยุโรป ส่วนของประเทศออสเตรเลียนั้น ข้อมูลตัวเลขดุลบัญชีการค้าและยอดการซื้อบ้านติดจำนองที่ลดลงทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ การอ่อนค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียนั้นสวนทางกับดอลลาร์นิวซีแลนด์ ที่ธนาคารกลางฯ ยังมองว่าโอไมครอนไม่เป็นภัยคุกคามต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- บัฟเฟตต์ปฏิเสธข่าวลือการเข้าซื้อกิจการทางรถไฟ
- 韩国总统尹锡悦面临弹劾与逮捕风波 国家分裂与政治危机加剧
- 美国宣布向乌克兰追加近60亿美元援助,覆盖预算支持与关键军事装备
- 特朗普政策或导致美国经济增速放缓0.5%,通胀上升1%——移民与关税成关键因素
- 6月14日OKCOPY智能跟单系统升级公告
- 美联储压力测试引发华尔街不满,美国银行政策所提起诉讼要求透明化
- 德国民调显示魏德尔总理支持率领先,但联盟党仍是大选热门
- 俄乌互袭升级 罕见无人机空袭基辅市中心 泽连斯基誓言一年内结束战争
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- 特朗普签署行政措施,推动加密货币与人工智能发展,具体细节尚未公布
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- Nippon Steel เสนอการยับยั้งของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยในการเข้าซื้อกิจการ US Steel
- TikTok恢复在美服务!特朗普宣布推迟禁令生效时间,寻求长期解决方案
- 特朗普再次宣布退出《巴黎气候协定》,誓言终结绿色新政推动化石燃料发展
- 金价静待特朗普上任 油价受俄乌天然气协议终止影响迎多头支撑
- 今天关注澳元兑美元(𝐀𝐔𝐃𝐔𝐒𝐃)
- 美股、比特币双双下跌,特朗普交易风格转变,美债收益率攀升凸显市场风险
- 加拿大能源部长警告特朗普:石油贸易战将损害美加能源合作关系
- TikTok在美或遭封禁,数万用户涌向小红书,称自己是“TikTok难民”
- ดาวโจนส์บวกกว่า 170 จุด หลังปิดร่วงสองวันรวด โดย InfoQuest
- 拉斯维加斯特朗普酒店外Cybertruck爆炸案引关注 警方与特斯拉展开深入调查
- 中东达成停火协议,金银油大涨,美股全线飙升,市场聚焦美国CPI数据和美联储政策
- 美国12月消费者信心显著下滑,预期指数接近衰退门槛,经济前景转弱
- TMGM与VFSC于悉尼深度交流,共筑数据安全长城!
- 美联储高官解读CPI数据:通胀缓步回落仍有挑战,货币政策取决于数据表现
- 拜登卸任前颁发19枚总统自由勋章 希拉里与索罗斯获奖引发争议
- 特朗普“出生公民权”行政令引发法律挑战 美国20多个州提起诉讼
- ภาวะตลาดเงินบาท: ส่งท้ายปีเปิด 34.03 อ่อนค่าเล็กน้อย รับบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า โดย InfoQuest
- 特朗普2.0政策布局:先关税后减税,多领域施政或推动“金发女郎”经济
- 特朗普请求最高法院延缓TikTok禁令 各界观点不乐观 谈判博弈或将持续
- 特朗普抨击民主党拖延提名确认 呼吁共和党强硬应对两党博弈加剧
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร