เยนอ่อนค่าจนใกล้ Low ในรอบ 24 ปี แล้วยังจะอ่อนค่าได้มากกว่านี้อีกหรือไม่
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แบบปีต่อปีในเดือนพฤษภาคมของสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุดออกมาอยู่ที่ 8.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลขในเดือนเมษษยน 8.3% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของเงินเฟ้ออย่างไม่หยุดหย่อน การเติบโตขึ้นของเงินเฟ้อในครั้งนี้ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดความร้อนแรง สิ่งที่นักลงทุนเป็นกังวลและสร้างความปั่นป่วนในตลาดลงทุนทุกประเภทก็มาจากสาเหตุนี้ พวกเขากลัวว่ายิ่งเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็จะยิ่งมีความตึงตัวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้ผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้ข้อสรุปเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อเนื่องจากช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ปรับขึ้น 0.50% มาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพียงธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ธนาคารกลางทั่วโลกตอนนี้กำลังอยู่ในเทรนด์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ ธนาคารกลางยุโรปประกาศแล้วว่าจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปีในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษก็กำลังจะทำสถิติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยห้าครั้งติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถือเป็นสถิติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันมากที่สุดในรอบ 25 ปีของ BoE ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าในการประชุมครั้งถัดไป BoE ก็จะไม่พลาดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน นอกจากธนาคารกลางฝั่งตะวันตกที่พร้อมใจกันขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารกลางในโซนเอเชียอย่างเช่นธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้ก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียงธนาคารกลางชื่อดังเพียงแห่งเดียวที่ยังยืนหยัดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากๆ อยู่ นั่นก็คือธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) พวกเขายังคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 0% และยังรักษาคำมั่นที่จะขยายบัญชีงบดุลเพื่อรองรับตลาดหากจำเป็น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันเป็นว่าเล่นของธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ทั่วโลกส่งผลกระทบให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และยังคงปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขยับเข้าใกล้จุดสูงสุดรับตั้งแต่ปี 2002 สวนทางกับสกุลเงินเยนที่ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง การทำนโยบายการเงินที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงของธนาคารกลางสหรัฐฯ และญี่ปุ่นทำให้ตอนนี้สกุลเงินเยนกำลังวิ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 24 ปี คำถามสำคัญก็คือว่ายังมีโอกาสที่ JPY จะอ่อนค่าลงไปได้มากกว่านี้อีกหรือไม่?เยนอ่อนค่าจนใกล้Lowในรอบปีแล้วยังจะอ่อนค่าได้มากกว่านี้อีกหรือไม่Forex Eye Query เมื่อพิจารณาจากกราฟ USD/JPY จะเห็นว่าทั้งคู่พึ่งวิ่งขึ้นแตะ 135.00 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 และตอนนี้อยู่ห่างจากจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 1998 เพียง 0.01% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม กราฟ USD/JPY ยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคานั้นได้อย่างเป็นทางการ และราคาก็ได้ย่อตัวกลับลงมา สร้างแท่งเทียนรูปแบบโดจิสามแท่งติดต่อกัน ตามตำรา แท่งเทียนรูปแบบโดจิแสดงให้เห็นถึงภาวะที่เทรนด์ใดเทรนด์หนึ่งไม่สามารถคุมตลาดได้ สะท้อนถึงความกังวล ความสับสน ความกลัวของนักลงทุนทั้งสองฝ่าย แม้จะมีคนที่ต้องการเห็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 1998 แต่ก็ยังขาดผู้นำที่จะพาให้ราคาสามารถขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ จำนวนแท่งของโดจิก็มีส่วนกับการตัดสินใจของนักลงทุน โดยปกติแล้วถ้ามีเพียงแท่งเดียว ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์ได้ ในมุมมองของการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน เราเชื่อว่าตราบใดที่ BoJ ยังไม่คิดจะเปลี่ยนนโยบายการเงิน ก็ยังมีโอกาสสูงที่กราฟ USD/JPY จะปรับตัวขึ้นต่อ เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ ตอนนี้แทบจะไม่มีทางเลือกในการหยุดยั้งเงินเฟ้อนอกจากต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แต่ถ้าให้มองในมุมของการวิเคราะห์ทางเทคนิค เราพบสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสที่กราฟ USD/JPY อาจจะย่อหรือพักตัวลงมาบ้าง สัญญาณแรกคืออินดิเคเตอร์ Volume กับราคาวิ่งไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน (ไดเวอร์เจนต์) เมื่อไหร่ที่อินดิเคเตอร์กับราคาขัดแย้งกัน มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มอยู่เสมอ สองคืออินดิเคเตอร์อย่างเช่น RSI และ ROC ต่างก็อยู่ในโซน overbought แล้ว มีความหมายว่าการซื้อในตลาดนั้นมีมากเกินไป ถ้าเกิดแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ลงมาเมื่อไหร่ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณยืนยืนการปรับตัวลดลงในระยะสั้น เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยงจะรอจนกว่าจะเกิดแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถมาสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนขาขึ้นที่มีก่อนหน้านี้ได้ หลังจากนั้น จะรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านล่าสุด ก่อนที่จะวางคำสั่งขายลงมา เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางจะรอเช่นเดียวกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยง แต่เมื่อขึ้นถึงแนวต้านแล้ว จะวางคำสั่งขายลงมาทันที เพื่อทำให้จุดตัดขาดทุนมีกรอบความเสี่ยงที่แคบที่สุด เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูงจะเสี่ยงวางคำสั่งขายทันที ซึ่งถือว่าเร็วกว่านักลงทุนในกลุ่มอื่น แต่เมื่อเทียบอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว กลุ่มนี้ถือว่าได้มากที่สุด - จุดเข้า: 135.00 - Stop-Loss: 135.25 - ความเสี่ยง: 25 จุด - เป้าหมายในการทำกำไร:134.00 - ผลตอบแทน: 100 จุด - อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4USD/JPY Daily
กลยุทธ์การเทรด
ตัวอย่างการเทรด
คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
-
5 ความเคลื่อนไหววงการ AI: แนวโน้มของ Nvidia, AMD ถูกลดระดับ โดย
-
ทรัมป์กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
-
ใน 100 วันแรกของทรัมป์ หนี้สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น คาดว่าอาจเกิดวิกฤตในปี 2025.
-
การเจรจาการค้าระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มุ่งเน้นอัตราแลกเปลี่ยน ญี่ปุ่นปฏิเสธผ่อนปรนสำคัญ
-
ราคาทองคำพุ่งแตะ $2,697 หลังข้อมูล CPI กดดันเงินดอลลาร์ โดย
-
กองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือน: สงครามการค้าอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- 5 ความเคลื่อนไหววงการ AI: แนวโน้มของ Nvidia, AMD ถูกลดระดับ โดย
- แบล็คร็อค ซีอีโอ: อย่ารีบด่วนตัดสินใจเพราะภาษีของทรัมป์
- ทรัมป์ระงับภาษีส่วนใหญ่ แต่คงอัตราภาษีพื้นฐาน 10%
- สหรัฐอเมริกาเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดกับมะเขือเทศเม็กซิโก
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- การโต้แย้งเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษรุนแรงขึ้น
- ซัมเมอร์สเตือนว่าเฟดชะลอการลดขนาดงบดุลส่งสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจ
- ทรัมป์ก่อความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากนโยบายภาษี ธนาคารกลางสหรัฐเตือนเงินเฟ้อ.
- กลุ่มสินค้าพลังงาน Snow Lake เตรียมพร้อมสําหรับการสํารวจปี 2025 โดย
- โกลด์แมน แซคส์ เตือนถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แนวโน้มการลดค่าเงินดอลลาร์ทวีความรุนแรงขึ้น
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง จับตาอัตราดอกเบี้ยของ BOJ และ BNM โดย
- ACM ร่วมมือ HTFX พานักลงทุน “รวยเงียบๆ”? ขุดลึกกลโกงใน Telegram
- การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนเมษายนชะลอตัวอีกครั้ง เกินคาดเกิดการขาดดุลการค้า
- ทรัมป์เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาษี
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- 博斯ติคเอนไปทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
- SMART CITY DEVELOPMENT LIMITED ร่วมมือกับ OAM Global? ระวังแชร์ลูกโซ่ตัวใหม่!
- ทรัมป์เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย พาวเวลล์ยืนกรานในความเป็นอิสระ
- หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับขึ้นหลังวอลล์สตรีทพุ่งจากนโยบายทรัมป์ Netflix พุ่งทะยาน โดย
- ทรัมป์ระงับภาษีส่วนใหญ่ แต่คงอัตราภาษีพื้นฐาน 10%
- สหภาพยุโรปมีแผนเก็บภาษี 95 พันล้านยูโรต่อสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางการค้าเพิ่มขึ้น
- การเจรจาการค้าระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มุ่งเน้นอัตราแลกเปลี่ยน ญี่ปุ่นปฏิเสธผ่อนปรนสำคัญ
- ราคา Bitcoin วันนี้: ร่วงแตะ $102,000 จากความผันผวนของเหรียญมีมทรัมป์ โดย
- สหรัฐอเมริกาหรือจะคงอัตราภาษี 10% ในระยะยาว
- แบล็คร็อค ซีอีโอ: อย่ารีบด่วนตัดสินใจเพราะภาษีของทรัมป์
- เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่ง ภาษีสูงขวางขึ้นดอกเบี้ย
- Oracle พุ่งแรง ขณะที่ Nvidia และ Microsoft ปรับตัวขึ้นจากความร่วมมือกับ OpenAI โดย
- ตลาดพันธบัตรสหรัฐอยู่ในช่วงจับตาดู โดยเน้นที่เรื่องภาษีและนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
- ทรัมป์กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
- ญี่ปุ่นยืนยันการส่งออกไปยังสหรัฐโดยไม่มีภาษีศุลกากร
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร