ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.88% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ0.88%เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน

หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าพลังงาน ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.88%  หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน
  • Headline Inflation August 2023

Actual: 0.88%       Previous: 0.38% 

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน

KTBGM: 0.80%     Consensus: 0.66%

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน
  • กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ0.88% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าพลังงาน ทว่าการปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาเนื้อสัตว์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันเงินเฟ้อ
  • สำหรับเดือนกันยายน กระทรวงพาณิชย์มองว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวและผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง อย่างไรก็ดี ฐานราคาที่สูงในปีก่อน มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ และผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดจะกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก ทั้งนี้ ตลอดทั้งปีกระทรวงพาณิชย์คงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ1.0%-2.0% (ค่ากลาง1.5%)
  • เราประเมินว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจไม่ได้เร่งตัวขึ้นไปมากจนทะลุกรอบ 1-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ2.25% อย่างไรก็ดี การประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่จากทั้งมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่และผลกระทบจากภาวะ El Nino
  • อย่างไรก็ดี เราไม่ได้ปิดโอกาสที่กนง. อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อสู่ระดับ2.50% (ให้โอกาส45%) เนื่องจาก กนง. อาจต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) ในจังหวะที่ภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินเอื้ออำนวยต่อการขึ้นดอกเบี้ย

กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ        0.88% เพิ่มขึ้นจากระดับ0.38% ในเดือนกรกฎาคม

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน
  • กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือนล่าสุดเพิ่มขึ้น+0.55% จากเดือนก่อนหน้า(เรามอง+0.45%) หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง +4.54% และราคาข้าว +0.63% ผักและผลไม้ +2.38% ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้งรวมถึงการระงับการส่งออกข้าวของอินเดีย อย่างไรก็ดี ราคาเนื้อสัตว์ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องกว่า -0.97% กดดันให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเพียง +0.23%
  • เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวขึ้นสู่ระดับ0.88% จาก0.38% ในเดือนก่อนหน้าโดยปัจจัยหนุนยังคงเป็นราคาหมวดอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า ตามความต้องการบริโภคและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศที่กระทบต่อผลผลิตในภาคเกษตร นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะและค่ากระแสไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูงจากปีก่อนก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยกดดันยังคงเป็น ระดับฐานราคาสินค้าและบริการที่สูงในปีก่อนหน้าและการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาเนื้อสัตว์ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน และเมื่อหักราคาอาหารสดรวมถึงพลังงานออก อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 สู่ระดับ 0.79%

อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมาย1-3% ทำให้เรายังคงมองว่ากนง. จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ2.25%

เงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานแพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าไมโครฟิวเจอร์ส 10 หยวน
  • แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดจะปรับตัวขึ้น แต่จะเห็นได้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งควรสะท้อนถึงความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภค กลับชะลอตัวลงต่อเนื่อง และหากเราประเมินว่า รัฐบาลใหม่เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ อาทิ การลดค่าไฟฟ้า ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า คุมราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้ออาจไม่ได้เร่งตัวขึ้นไปมาก อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผลกระทบจากภาวะ El Nino ที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนอัตราเงินเฟ้อได้ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ Digital Wallet เรามองว่า ผลกระทบต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้ออาจไม่ได้น่ากังวลมากอย่างที่เราเคยประเมินก่อนหน้า หากอ้างอิงผลการศึกษาของสำนักงบประมาณของรัฐสภา จะพบว่าตัวคูณทางการคลังหรือ Fiscal Multipliers ของรายจ่ายเงินโอนสำหรับประชาชนทั่วไป อยู่ที่ 0.947 ซึ่งยิ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านเงินดิจิตอลก็อาจทำให้ Fiscal Multipliers ไม่ได้สูงอย่างที่คิด ดังนั้น เราจึงประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ หากประเมินถึงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและเริ่มเห็นความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนสินเชื่อรถยนต์และอสังหาฯ ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้วที่ระดับสูงสุด2.25% 
  • อย่างไรก็ดีเรายังไม่ปิดโอกาสที่กนง. อาจพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยต่อสู่ระดับ2.50% (เราให้โอกาสเกิดกรณีดังกล่าว45%)เนื่องจาก กนง. ก็ให้ความสำคัญต่อ การรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (Policy Space) และการเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว (ซึ่งเรามองว่า กนง. ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง หรือ Real Policy Rate เป็นบวก เมื่อเศรษฐกิจกลับสู่ระดับศักยภาพ) และในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินก็ดูจะเอื้ออำนวยต่อการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ได้เช่นกัน แต่หากกนง. เลือกที่จะรอดูสถานการณ์ไปก่อนเรามองว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยต่อก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆตามแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจหลัก ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพเศรษฐกิจไทยได้ ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทก็มีโอกาสกลับมาแข็งค่ามากขึ้น ในช่วงปลายปี หรือ ปีหน้า เมื่อเทียบกับระดับปัจจุบัน
คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

แบ่งปัน: