วิเคราะห์ เจาะลึก แกะงบ หุ้น CH

PLUS ขายน้ำมะพร้าว ตลาดหลักคือ สหรัฐฯ ขายดีที่ Walmart ได้ประโยชน์จากการขยายสาขา ค่าระวางเรือลดลง ตู้คอนเทนเนอร์หาง่ายขึ้น และเงินบาทอ่อน ราคาหุ้นขึ้นเป็นเท่าตัวจาก IPO

ส่วน CH ขายเนื้อมะม่วงแบบแปรรูป รองมาคือ ส้ม ขิง ตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐฯ เหมือนกัน ตามมาด้วยไทย ญี่ปุ่น และแคนาดา ติดต่อกับ Walmart โดยตรงทำ house brand ให้ และยังมีวางขายที่ Costco กับ Trader Joe’s

จริงๆ CH มีสินค้า 3 กลุ่ม แต่ 85% ขายผลไม้อบแห้ง 14% ขายปลากระป๋อง ที่เหลือไม่ถึง 1% ขายขนมเพื่อสุขภาพ (granola ball,วิเคราะห์เจาะลึกแกะงบหุ้นเว็บไซต์สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศ plant base ทำจากมันแกว) แต่ยอดขายครึ่งนึงของบริษัทมาจากมะม่วง ถ้าปีไหนขายดี ต้นทุนถูก ปีนั้นจะกำไรมาก และฤดูกาลเก็บเกี่ยวมะม่วงกับการผลิตก็อยู่ในช่วงกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม

แปลว่า ยอดขายของบริษัทจะดีที่สุด Q2 ตามด้วย Q3 และอ่อนตัวลง Q4 น้อยสุด Q1

การใช้กำลังการผลิตก็เช่นกันเต็ม 100% Q2 แล้วลดลงเหลือ 50-60% ในไตรมาสอื่น

73% ส่งออกไปต่างประเทศ อย่างที่บอกไปสหรัฐฯ มากที่สุด แต่อยู่ฝั่ง West เป็นหลัก และสินค้าที่ขายเป็น OEM (รับจ้างผลิต) กับ Bulk Pack (ใส่ถุงใหญ่เป็นกิโลๆ แล้วให้ลูกค้าไปแบ่งบรรจุขายเอง)

ปีนี้ คือ ปีที่ดีของบริษัท เพราะว่า

1. ค่าเงินบาทอ่อน ส่งออกง่ายขึ้น

2. ตู้คอนเทนเนอร์หาง่ายขึ้น ลูกค้าสั่งมากขึ้น term ขายของ 75% เป็น FOB

3. ต้นทุนมะม่วงถูกลง 2-3 บาทต่อกิโลกรัม มาร์จิ้นจะดีขึ้น ดูที่สินค้าคงเหลือ เอาเข้ามาเยอะมากแล้ว และแปรรูปแล้วบางส่วน

4. Walmart ดูขายดี ดูจาก PLUS ก็ได้ เพิ่มเติม คือ มีขาย Costco, Trader Joe’s

5. มีโรงงานที่กัมพูชา ได้สิทธิ์ไม่เสียภาษีถ้าส่งไปยุโรป แต่ยอดขายไปยุโรปแค่ 10% หลักๆ คือ อิตาลี กับ เนเธอร์แลนด์

ผลประกอบการของ CH

ปี 2562 ยอดขาย 1,656 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.9 ล้านบาท

ปี 2563 ยอดขาย 1,634 ล้านบาท กำไรสุทธิ 67.3 ล้านบาท

ปี 2564 ยอดขาย 1,442 ล้านบาท กำไรสุทธิ 67 ล้านบาท

1H65 ยอดขาย 910 ล้านบาท กำไรสุทธิ 67.3 ล้านบาท

เราจะเห็นว่า ช่วง COVID ไม่ดี ยอดขายลดลงต่อเนื่อง ส่งออกลดลง กำไรทรงๆ ที่ 67 ล้านบาท แต่พอปัญหาคลี่คลาย ปีนี้ขายดีมาก จริงๆ เพิ่งจะมาดี Q2’65 นี่เอง กำไร 67 ล้านบาท เท่ากับปีที่แล้วทั้งปีไปแล้ว แต่ว่าเราจะจับคูณสองไม่ได้นะ เพราะว่า Q2 คือ peak season เดี๋ยวยอดขาย กำไรจะลดลง ใน 2H

ในแง่ของมาร์จิ้นต้องบอกว่าไม่สูงเท่าไหร่ GPM 18-19% NPM 4-5% มี Q2 ปีนี้โดดขึ้นมา 7%

ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของบริษัทจากหลายเรื่องที่บอกไป บวกกับฐานต่ำจากปีก่อน และก็ได้เงิน IPO ไปสร้างคลังสินค้า ไปซื้อมะม่วงมาตุนไว้เตรียมผลิต และเพิ่งสร้างศูนย์ R&D สำหรับนวัตกรรมในอนาคต

ราคาวันนี้ขึ้นไปก็ 4.5-5 บาท แล้ว ใครสนใจลองประเมินมูลค่าหุ้นดูกันครับว่า ถูกหรือแพง อนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไรบ้าง ลองพิจารณากันให้เหมาะสมกับแผนการของเราครับ

การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการลงทุนเท่านั้น

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!