ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.28 แข็งค่าตามภูมิภาค รอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐ คาดกรอบพรุ่งนี้ 36.15

InfoQuest - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.28 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.31 บาท/ดอลลาร์เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 36.21-36.32 บาท/ เนื่องจากระหว่างวัน ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อทิศทางของค่าเงินมากนัก ตลาดรอดูการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ ในคืนนี้"วันนี้เงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ ถ้ายังออกมาชะลอตัวต่อเนื่อง ตลาดมองว่ามีโอกาสมากขึ้น ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งจะมีผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าได้" นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.15-36.40 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.28 แข็งค่าตามภูมิภาค รอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐ คาดกรอบพรุ่งนี้ 36.15

- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 161.54 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 161.63 เยน/ดอลลาร์- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0846 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0833 ดอลลาร์/ยูโร- ดัชนี ปิดวันนี้ที่ 1,ภาวะตลาดเงินบาทปิดแข็งค่าตามภูมิภาครอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐคาดกรอบพรุ่งนี้การเปิดมาร์จิ้นแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปี 2020329.37 จุด เพิ่มขึ้น 6.09 จุด (+0.46%) มูลค่าซื้อขาย 40,340.15 ล้านบาท- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 610.85 ล้านบาท- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะเติบโตที่ 2.4% ส่วนค่าเงินบาทในไตรมาสสุดท้าย จะผันผวนในกรอบ34.50-36.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท อาจเป็นไปอย่างจำกัด ท่ามกลางศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ขาดความโดดเด่น กระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง รวมถึงประเด็นความท้าทายจากทิศทางการค้าโลก- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50%ตลอดปีนี้ โดยการสื่อสารของผู้ดำเนินนโยบายต่อผู้ร่วมตลาด สะท้อนความสำคัญของการดูแลเสถียรภาพ ลดการสะสมความเปราะบางของเศรษฐกิจการเงินในระยะกลางถึงยาว- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มิ.ย.67อยู่ที่ 58.9 ลดลงจาก 60.5 ในเดือน พ.ค.67 โดยปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.66 จากสาเหตุสำคัญคือความไม่มั่นใจในเสถียรภาพการเมือง, กังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/67 มีโอกาสขยายตัวได้3-4% ส่งผลให้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะขยายตัวได้ราว 3% ซึ่งเมื่อรวมทั้งปีแล้วเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.5% ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่รวมเม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากรวมเม็ดเงินจากดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัวได้ 2.8-3%- รมช.คลัง กล่าวถึงการกำหนดวงเงินโครงการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ตที่ 4.5 แสนล้านบาทนั้น สืบเนื่องจากตัวเลขคาดการณ์ผู้มาใช้สิทธิในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ 40 กว่าล้านคน เป็นตัวเลขเพื่อประเมินผลต่อเศรษฐกิจอยู่แล้วซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.3-1.8% แต่หากท้ายสุด มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่าที่ประเมินไว้ ก็เชื่อว่าจะมีผลดีกับเศรษฐกิจมากขึ้นด้วยเช่นกัน- เจพีมอร์แกนระบุว่า มาเลเซียกำลังแจ้งเกิดในฐานะประเทศที่น่าลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ ขยายตัว 0.4%ในเดือนพ.ค. และเป็นปัจจัยหนุนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ- สมาคมนักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ ระบุว่า ยอดขายบ้านในอังกฤษมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง รวมถึงความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้คลี่คลายลงแล้ว- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

แบ่งปัน: