ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.60 แนวโน้มแข็งค่ารับดอลลาร์อ่อนหลังคาดเฟดแนวโน้มคงดอกเบี้ย โดย InfoQuest

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.84 บาท/ดอลลาร์ล่าสุด บาทอยู่ที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ ว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือนมิ.ย.นี้ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างไรก็ดี ต้องติดตามการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เดือนพ.ค.ในคืนนี้ก่อน เพราะหากตัวเลขออกมาดี ตลาดก็อาจจะปรับคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดใหม่ได้นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45 -34.70 บาท/ดอลาร์THAI BAHT FIX 3M (1 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.90163% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.11342%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นที่ระดับ 139.81/82 เยน/ดอลลาร์- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0762 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นที่ระดับ 1.0697/0701 ดอลลาร์/ยูโร- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 34.774 บาท/ดอลลาร์- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยไทยจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในการประชุมเดือนส.ค.และก.ย.นี้ เข้าสู่ระดับจุดสูงสุด 2.5% แม้เงินเฟ้อของไทยอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ยังมีความเสี่ยงสูง จากการส่งผ่านต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการไปยังผู้บริโภคที่จะคาดว่ายังอยู่ในระดับสูงตลอดปีนี้- โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีนี้ทำได้ดีกว่าคาดการณ์ โดย 7 เดือนของปีงบประมาณ66 (ต.ค.65-เม.ย.66) จัดเก็บได้กว่า 1.07 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 65,ภาวะตลาดเงินบาทเปิดแนวโน้มแข็งค่ารับดอลลาร์อ่อนหลังคาดเฟดแนวโน้มคงดอกเบี้ยโดยการลงทุนในเงินตราต่างประเทศส่วนบุคคล166 ล้านบาท หรือ 6.5% และเกินกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 107,101 ล้านบาท หรือ 11.10% ซึ่งทั้งปีงบประมาณคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและสูงกว่าตามเอกสารงบประมาณอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเป้าหมายรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณนี้กำหนดไว้ที่ 2.02 ล้านล้านบาท- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 278,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 291,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 235,000 ราย- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) หลังจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย และว่าที่รองประธานเฟด เป็นเจ้าหน้าที่เฟด 2 รายล่าสุดซึ่งส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.- นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าวล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%- นักวิเคราะห์จากบริษัท B. Riley Wealth กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างและดัชนีภาคการผลิต สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในทิศทางที่ดี คือไม่ร้อนแรงเกินไปจนทำให้เฟดมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และไม่ได้อ่อนแอเกินไปจนทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย- นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ3.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!