ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัว ก่อนรายได้ Q3 จากหุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ โดย

- หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอรายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายบริษัทในสัปดาห์หน้า

แม้ดัชนีของวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นตามผลประกอบการที่เป็นบวกของ Tesla Inc (NASDAQ:) แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการขาดทุนประจำสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง และความคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจังหวะที่ช้าลง

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัว ก่อนรายได้ Q3 จากหุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ โดย

ความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยงยังถูกกดดันจากความกลัวว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะแย่ลง ขณะที่อิสราเอลเตรียมโจมตีอิหร่าน

ทรงตัวที่ 5,หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัวก่อนรายได้Qจากหุ้นเทคฯยักษ์ใหญ่โดยแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์น้ำมันดิบ847.25 จุด ขณะที่ ขยับลง 0.1% มาเป็น 20,365.75 จุด ณ เวลา 08:20 น. (GMT+7) ด้าน ทรงตัวที่ 42,591.0 จุด

จับตารายงานผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีในสัปดาห์หน้า

ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 จะถึงจุดสูงสุดในสัปดาห์หน้า โดยบริษัทในกลุ่ม “Magnificent Seven” ห้าบริษัทจะรายงานผลประกอบการพร้อมกัน

โดย Alphabet Inc (NASDAQ:) จะรายงานในวันอังคาร ตามด้วย Meta Platforms Inc (NASDAQ:) และ Microsoft Corporation (NASDAQ:) ในวันพุธ ส่วน Apple Inc (NASDAQ:) และ Amazon.com Inc (NASDAQ:) จะรายงานในวันพฤหัสบดี

ทั้งห้าบริษัทนี้มีส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ในวอลล์สตรีท โดยผลประกอบการของพวกเขาอาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตลาดโดยรวม ซึ่งนักลงทุนจะให้ความสำคัญว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของรายได้หรือไม่ โดยเฉพาะในภาวะที่มีการลงทุนใน AI ที่เพิ่มขึ้น

ผลประกอบการที่เป็นบวกจาก Tesla ในสัปดาห์นี้ได้สร้างความหวังเล็กน้อยต่อรายงานที่จะมาถึง อีกทั้งหุ้น Tesla ยังพุ่งขึ้นเกือบ 22% ในวันพฤหัสบดี และลดลงเพียง 1% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด

นอกจากบริษัทกลุ่ม Magnificent Seven แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ของวอลล์สตรีทก็กำลังจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ซึ่งรวมไปถึง Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:) Inc (NYSE:) (NYSE:) Ford Motor Company (NYSE:) และ (NYSE:) ซึ่งความสนใจจะอยู่ที่ว่าบริษัทเหล่านี้สามารถทนต่ออัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงได้หรือไม่ หลังจากรายงานผลประกอบการที่หลากหลายในสัปดาห์ที่ผ่านมา

วอลล์สตรีทเผชิญการขาดทุนประจำสัปดาห์

แม้ว่าดัชนีวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่ก็ยังลดลงระหว่าง 0.4% ถึง 2.1% ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยงยังคงอ่อนแอ และหุ้นสหรัฐยังได้รับผลกระทบจากการเทขายทำกำไร หลังจากที่ได้ทำสถิติสูงสุดในช่วงต้นเดือนตุลาคม

ดัชนี เพิ่มขึ้น 0.2% มาเป็น 5,809.86 จุด ขณะที่ เพิ่มขึ้น 0.8% มาเป็น 18,413.91 จุดในวันพฤหัสบดี ด้านดัชนี ลดลง 0.3% เป็น 42,374.36 จุด ซึ่งถือเป็นดัชนีที่ทำผลงานได้อ่อนแอที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมตลาดในสัปดาห์นี้

ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนเตรียมตัวรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลงโดยเฟด นอกจากนี้ อัตราความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือกมลา แฮร์ริส ยังส่งผลให้ตลาดต้องเตรียมรับมือกับนโยบายเงินเฟ้อของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

แบ่งปัน: