อุปสรรค 3 ประการที่ BTC และ ETH ต้องเจอในปี 2022
ผ่านไปเพียงครู่เดียว เราก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2021 กันแล้ว ในปีนี้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงต้นปี การเติบโตของ DeFi เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ตามมาด้วยขาขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลอีเธอเรียม ที่ปีนี้เติบโตแซงหน้าบิทคอยน์ได้อย่างขาดรอย ก่อนที่จะมาปิดท้ายด้วยการลงทุนในโลก GameFi โลกที่เกมกับการทำงานสามารถกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ปี 2021 เป็นปีที่สกุลเงินดิจิทัลบิทคยอน์และอีเธอเรียมได้รับการยอมรับมากขึ้น การถือกำเนิดขึ้นของกองทุน ETF บิทคอยน์ได้ทำให้มูลค่าของบิทคอยน์ฟิวเจอร์สเคยสามารถขึ้นมายืนเหนือ $50,อุปสรรคประการที่BTCและETHต้องเจอในปีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ fx168000 ในขณะที่อีเธอเรียมฟิวเจอร์สสามารถขึ้นมา $4,000 นี่คือช่วงเวลาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าย้อนกลับไปทศวรรษก่อน แต่พูดชื่อบิทคอยน์ก็ยังแทบไม่มีใครรู้จักเลย จากวันนี้ไม่มีใครรู้จักคริปโตฯ มาถึงวันนี้การเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลในปี 2021 กลายเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วไปพูดถึงกันราวกับว่าได้เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลกันทุกคนแล้ว บรรยากาศเช่นนี้เหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ยิ่งโลกคริปโตฯ เติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ร้ายในสังคม และถูกจำกัดจากภาครัฐก็มีมากยิ่งขึ้น เรย์ ดาริโอ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังเจ้าของหนังสือ The Principlesเคยกล่าวเอาไว้ว่า “การกำจัดสกุลเงินดิจิทัลของภาครัฐเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายมาก” ดังนั้นในปี 2022 ปีที่สกุลเงินดิจิทัลจะยิ่งเติบโตไปไกลมากกว่านี้ มีอุปสรรคอะไรบ้างที่รอโลกไร้พรมแดนแห่งนี้อยู่ ในบทความนี้เราจะพาไปดูกัน ใครก็ตามที่ถือบิทคอยน์และอีเธอเรียมมาตั้งแต่วันที่วันที่ 31 ธันวาคมปี 2020 มาจนถึงตอนนี้เชื่อได้เลยว่าคงจะกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ที่มา: Barchart รูปนี้คือกราฟบิทคอยน์ที่ปรับตัวขึ้นจาก $28,986.74 ในวันที่ 31 ธันวาคมปี 2020 ขึ้นมายัง $50,818 ในวันที่ 27 ธันวาคม 2021 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ คิดเป็นมูลค่าการเติบโตมากกว่า 75% ที่มา: Barchart หากคิดว่าบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นมาเยอะแล้ว เราอยากให้ดูกราฟอีเธอเรียมในรูปนี้ก่อน ในช่วงสิ้นปี 2020 มูลค่าของสกุลเงินอีเธอเรียมเคยมีตัวเลขอยู่ที่ $738.912 แต่เมื่อมาถึงวันที่ 27 ธันวาคมปี 2021 มูลค่าของสกุลเงินอีเธอเรียมได้เปลี่ยนจาก $700 กว่า กลายมาเป็น $4,060 คิดเป็นการเติบโตมากกว่า 449% ถามว่าข้อมูลนี้สามารถบอกอะไรกับนักลงทุนได้บ้าง? ในปี 2020 บิทคอยน์เคยเติบโตขึ้นจาก $20,000 กว่าเหรียญขึ้นมายืนเหนือ $60,000 ได้ แสดงให้เห็นถึงการเข้าสู่โลกสกุลเงินดิจิทัลของนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น แต่มาปีนี้ การที่มูลค่าของอีเธอเรียมสามารถเติบโตนำบิทคอยน์ได้นั้น แสดงให้เห็นว่าคนที่เข้ามาแล้ว ได้ศึกษาจนทราบว่าบิทคอยน์และอีเธอเรียมมีจุดประสงค์ในการใช้งานต่างกัน และมีโอกาสที่ในอนาคตโลกสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 16,000 เหรียญจะถูกต่อยอดผ่านอีเธอเรียมได้ง่ายกว่า ถือเป็นเรื่องดีที่เราได้เห็นสกุลเงินดิจิทัลมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงที่ตลาดทุนแห่งนี้จะถูกควบคุมก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ในความเห็นของผม ความเสี่ยงที่สกุลเงินดิจิทัลจะต้องเจอในปี 2022 มีดังนี้ สำหรับคนที่มีความรู้คอมพิวเตอร์ และคุ้นชินกับการทำธุรกรรมกับสกุลเงินดิจิทัลเป็นอย่างดี เชื่อว่าพวกเขาคงจะไม่มีปัญหาอะไรกับการรักษาเงินในกระเป๋าดิจิทัล เพราะเรื่องนี้ถือเป็นพื้นฐานที่คงลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลจำเป็นต้องมี แต่หากสกุลเงินดิจิทัลคิดที่เป็นสกุลเงินกลางของโลก หมายความว่ามันต้องสามารถเข้าถึงแม้คนที่ไม่มีความรู้ด้านการเงินหรือเทคโนโลยีเลยก็ตาม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แจ็ค ดอร์ซีย์ อดีต CEO ของทวิตเตอร์ที่ได้หันมาอุทิศชีวิตให้กับการสร้างกระเป๋ษสำหรับสกุลเงินดิจิทัลได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในตอนนี้เขาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความรู้ด้านคริปโตฯ หรือคนที่ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ต้องสามารถใช้กระเป๋าเงินของแจ็ค ดอร์ซีย์ได้ นั่นคือสิ่งที่เขาหวังเอาไว้ ในแง่ของการลงทุน ถึงภาครัฐจะไม่ได้ขัดขวางการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจความซับซ้อนของการทำธุรกรรมผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ ดังนั้นรัฐจึงอนุญาตให้ลงทุนในบิทคอยน์ผ่านกองทุน ETF สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลทางอ้อม แต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงตรงๆ สามารถลงทุนผ่านกองทุน ETF ได้ ในปี 2022 ปีที่เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครตั้งคำถามว่าคริปโตฯ คืออะไรอีกแล้ว การถือครองสกุลเงินดิจิทัลไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลควรที่จะทำได้ง่ายมากกว่านี้ การเติบโตทางเทคโนโลยีทำให้โลกของเราเติบโตได้เร็วขึ้นก็จริง แต่ก็แลกมาด้วยการโจมตีรูปแบบใหม่ที่มาในรูปแบบของการโจมตีไซเบอร์ หากยังจำกันได้ ในปี 2021 ได้มีกรณีแฮกเกอร์เข้าโจมตีท่อส่งน้ำมันของสหรัฐอเมริกา และเรียกเงินค่าไถ่เป็นสกุลเงินดิจิทัล ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สกุลเงินดิจิทัลมักจะถูกกล่าวหามาโดยตลอด และฝั่งที่สนับสนุนคริปโตฯ ก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธได้เลย เราจึงยังคงเชื่อว่าประเด็นเรื่องความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของผู้ครอบครองสกุลเงินดิจิทัลยังคงจะเป็นประเด็นต่อไปในปี 2022 หากปีหน้า แฮกเกอร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีฐานอำนาจของภาครัฐมากขึ้น และยิ่งเรียกค่าไถ่เป็นสกุลเงินดิจิทัล เชื่อได้เลยว่าภาครัฐจะต้องออกมาดำเนินการบางอย่างอย่างจริงจัง สำหรับตอนนี้ ความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล บริษัทตัวการการแลกเปลี่ยน และลูกค้าที่มีความรู้เกี่ยวกับการรักษาเงินในกระเป๋าดิจิทัลตัวเองจึงเป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด สองประเด็นที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้เป็นปัญหาทางเทคนิคที่ยังพอจะสามารถใช้ความรู้ ความชำนาญในการแก้ไขปัญหา แต่สำหรับการควบคุมของรัฐบาลนั้นเป็นปัญหาทางการเมือง ที่แตกต่างออกไปตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิตของคนในประเทศนั้นๆ บางประเทศอย่างเช่นจีนเลือกที่จะห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลโดยเด็ดขาด ในขณะที่เอล ซัลลาดอร์เลือกที่จะใช้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินประจำชาติ ระบบการเงินถือเป็นการใช้อำนาจรูปแบบหนึ่ง ภาครัฐมีสิทธิ์ที่จะกำหนดปริมาณเงินและสภาพคล่องในระบบได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง และนั่นคือที่มาของความเสี่ยงทางการเงินในปัจจุบัน การที่เราต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในตอนนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินที่ถูกทำให้ผิดเพี้ยนจากรัฐบาล เมื่อการกู้ยืมสามารถทำได้อย่างไม่จำกัด เงินในระบบก็ยิ่งมีแต่จะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ แต่รัฐก็ไม่เคยคิดที่จะยอมรับความผิดพลาดในการบริหารนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้สร้างสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ ถึงกำนดให้บิทคอยน์มีจำนวนอยู่เพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และมอบอำนาจการมีส่วนร่วมในระบบการเงินให้ผู้ที่ใช้งานมีสิทธิ์ได้ตัดสินใจ ไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และมีเมื่อทราบดีว่าประชาชนในอานัติของตนเริ่มมองเห็นกลลวงของพวกเขาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐอยากจะกำจัดสกุลเงินดิจิทัลในฐานะคู่แข่งโดยตรงของพวกเขา สัปดาห์ที่แล้ว มูลค่ารวมของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดมีตัวเลขอยู่ที่ $2.38 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขนี้คือมูลค่าตลาดที่เติบโตขึ้นมากกว่าสามเท่าจากตัวเลขในปี 2020 และมูลค่าตลาดในปี 2020 ก็เติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2019 เกือบสี่เท่า หากเอาโมเดลการเติบโตนี้มาจับกับการความเป็นไปได้ที่จะเติบโตของตลาดสกุลเงินดิจิทัลในปี 2022 มีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะได้เห็นตัวเลขมูลค่าตลาดสูงเกือบ $5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าบางคนจะไม่เห็นด้วยกับสกุลเงินดิจิทัล แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับโอบรับบล็อกเชน ที่สามารถนำไปต่อยอดกับการเก็บข้อมูล ไฟล์เอกสาร หรือข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้ แต่ยิ่งบริษัทหรือองค์กรยอมรับบล็อกเชนหรือสกุลเงินดิจิทัลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกเพ่งเล็งจากภาครัฐมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้จะมีคนบอกว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลายเป็นฟองสบู่แล้ว แต่ส่วนตัวผมกลับไม่คิดเช่นนั้น ผมมองว่าคริปโตฯ กลายเป็นคู่แข่งของระบบการเงินจากรัฐบาล คริปโตฯ เป็นภัยคุกคามต่อสถานะที่เป็นอยู่ของการควบคุมปริมาณเงินของรัฐบาลและการจัดลำดับชั้นของระบบธนาคารและการเงินแบบดั้งเดิม อุดมการณ์ใหม่ที่ต้องการมาแทนที่การเงินแบบเก่ากำลังพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลง และเรากำลังเป็นสักขีพยานของการเปลี่ยนแปลงนั้นภาพรวมตลาดสกุลเงินดิจิทัล
BTCUSD Monthly 2010-2021
ETHUSD Monthly 2010-2021
1. ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถดูแลกระเป๋าเงินดิจิทัลได้
2. ความปลอดภัยยังคงเป็นประเด็นที่ถูกโจมตีอันดับหนึ่ง
3. การควบคุมจากภาครัฐ
คริปโตฯ จะยังคงอยู่ต่อไป แต่จะมีความท้าทายที่ต้องเจอมากขึ้น
คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
-
สกุลเงินเอเชียปรับขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่า จับตาการตัดสินใจดอกเบี้ยของ BOJ โดย
-
เปิด 10 คำทำนายตลาดหุ้นในปี 2023
-
รวม 8 เหตุโจรกรรม Bitcoin ในปี 2022 ที่จะทำให้ทุกคนต้องทบทวนความปลอดภัยทางกายภาพ โดย Siamblockchain
-
Sam Bankman
-
หุ้นเอเชียผันผวนจากสัญญาณที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์ โดย
-
ปริมาณ Ethereum ที่สำรองไว้บนกระดานเทรดลดลงมากกว่า 30% ในปี 2022 โดย Siamblockchain
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- Circle X FamilyMart ไต้หวัน ยกระดับ เปิดบริการแต้มสะสมแลกคริปโต
- 1 พันล้านเหรียญ XRP ถูกปลดล็อคออกมากจากกระเป๋า Escrow นักเทรดควรกังวลหรือไม่ โดย Siamblockchain
- เผย 5 คำทำนายราคา Bitcoin ในปี 2023 จากกูรูและนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง โดย Siamblockchain
- อย่าลืมดูฐานราคาหุ้น ก่อน COVID ด้วยนะ
- UM Social : 方便易用、更新不断、轻松跟单、回报
- CZ ชี้อาจมีข้อมูลรั่วจาก 3Commas ! เตือนผู้ใช้ให้ปิดการใช้งาน API Key ในทันที โดย Siamblockchain
- ลูกหนี้ FTX จะรวมตัวกันขอสินทรัพย์ crypto คืนจากหน่วยงานกำกับดูแลของบาฮามาส โดย Siamblockchain
- ทองคำทำกำไรล่าสุดในขณะที่ตลาดรอรายงาน GDP และการอ่านค่าเงินเฟ้อ โดย
- หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับขึ้นหลังวอลล์สตรีทพุ่งจากนโยบายทรัมป์ Netflix พุ่งทะยาน โดย
- Binance ประกาศ ‘Delist’ 3 เหรียญ Altcoin ชื่อดังออกจากตลาด Futures โดย Siamblockchain
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- ราคาทองคำพุ่งแตะ $2,697 หลังข้อมูล CPI กดดันเงินดอลลาร์ โดย
- ไม่ได้ไปต่อ ! ‘CDC’ ตัวชี้วัดเขียว
- Binance โต้ข่าว FUD ยืนยัน ! “บริษัทที่แข็งแกร่งจะไม่ถูกทำลายลงด้วยโพสต์ทวีต” โดย Siamblockchain
- CZ ชี้อาจมีข้อมูลรั่วจาก 3Commas ! เตือนผู้ใช้ให้ปิดการใช้งาน API Key ในทันที โดย Siamblockchain
- Binance.US ประกาศระงับถอนดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลก่อ
- Binance โต้ข่าว FUD ยืนยัน ! “บริษัทที่แข็งแกร่งจะไม่ถูกทำลายลงด้วยโพสต์ทวีต” โดย Siamblockchain
- 5 ปัจจัยสำคัญในตลาดหุ้นวันพุธนี้ จับตามองรายงานจากเฟด โดย
- รัสเซียมุ่งหน้าสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ในไซบีเรียเพื่อตอบสนองความต้องการการขุด Bitcoin โดย Siamblockchain
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- วานนี้ราคาทองสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
- การทำ Proof
- 1 พันล้านเหรียญ XRP ถูกปลดล็อคออกมากจากกระเป๋า Escrow นักเทรดควรกังวลหรือไม่ โดย Siamblockchain
- ราคาทองฟิวเจอร์บวก รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดย InfoQuest
- CZ ชี้อาจมีข้อมูลรั่วจาก 3Commas ! เตือนผู้ใช้ให้ปิดการใช้งาน API Key ในทันที โดย Siamblockchain
- ตลาดหุ้นไทยปีกระต่าย UPSIDE จำกัด
- การทำ Proof
- USD/CAD แข็งค่าขึ้นหลังจากประกาศอัตราเงินเฟ้อขอ...
- Sam Bankman
- อย่าลืมดูฐานราคาหุ้น ก่อน COVID ด้วยนะ
- ความอ่อนแอของระบบเศรษฐกิจอาจทำให้ Bitcoin มีบทบาทในระบบการค้าของโลกในไม่ช้า โดย Siamblockchain
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร