ดาวโจนส์เปิดตลาดลดลงกว่า 100 จุด ความสนใจมุ่งไปยังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดย

© Reuters.

โดย Peter Nurse

-- หุ้นสหรัฐเปิดตลาดต่ำลงในวันอังคารนี้ ส่งผลให้กำไรช่วงก่อนหน้าบางส่วนหายไป ก่อนเริ่มฤดูกาลประกาศผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายไตรมาส

เวลา 7.00 น. ET (1100 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 125 จุดหรือ 0.4% สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 ซื้อขาย 15 จุดหรือ 0.4% ต่ำกว่าและ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าNasdaq 100 ลดลง 60 จุดหรือ 0.4%

ดัชนีหลักสามแห่งของวอลล์สตรีทพลิกกลับการขาดทุนในช่วงปลายของวันจันทร์ โดย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากขาดทุน 500 จุดจากช่วงต้นของวัน S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.6% และ Nasdaq Composite ที่ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 1.3%

Twitter (NYSE:TWTR) เป็นจุดสนใจหลัก โดยในที่สุดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมก็ยอมรับข้อเสนอ 44 พันล้านดอลลาร์ของ อีลอน มัสก์ นักลงทุนยังคงถกเถียงกันต่อว่า มัสก์ จะทำอย่างไรกับโซเชียลมีเดียนี้ต่อไป

วันอังคารยังเป็นจุดเริ่มต้นของรายงานจำนวนหนึ่งจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยทั้ง Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) จะรายงานหลังการปิดตลาด ความคาดหวังถดถอยหลังจำนวนสมาชิก Netflix(NASDAQ:NFLX) ออกมาน่าผิดหวัง  ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับรายได้ในภาคธุรกิจนี้

บริษัทขนส่ง UPS (NYSE:UPS),ดาวโจนส์เปิดตลาดลดลงกว่าจุดความสนใจมุ่งไปยังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยอันดับบริษัทแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการ บริษัทน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ PepsiCo (NASDAQ:PEP) และกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรม 3M (NYSE:MMM) เป็น 3 บริษัทที่จะรายงานรายได้ในช่วงต้นเซสชั่น

ตลาดหุ้นประสบปัญหาเกือบตลอดทั้งปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากเงินเฟ้อ และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ

ดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี S&P 500 ลดลงเกือบ 10% และ Nasdaq Composite ลดลง 17% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทางลบนี้อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุด อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ตามการรายงานของ Citigroup

ธนาคารสหรัฐชี้ไปที่การไหลออกที่ชะลอตัวจากกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนและการปรับฐานในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยระบุว่า "เราอยู่ใกล้จุดสูงสุดของนักลงทุนในตลาดตราสารทุน แม้ว่าจะยังไม่มีการกลับตัวเป็นขาขึ้นก็ตาม"

รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence) ซึ่งวัดระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีกำหนดส่งมอบเวลา 10.00 น. ET และคาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 108.0 ในเดือนเมษายน จากเดิม 107.2 ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ ของเดือนมีนาคม  และ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนมีนาคม

ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร หลังจากการขาดทุนอย่างหนักของช่วงก่อนหน้า แต่ความกังวลยังคงมีอยู่ว่าการปิดเมืองในจีนจากโควิด-19 ที่มากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบจากประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก

ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์จาก American Petroleum Institute จะครบกำหนดในวันรุ่งขึ้น

ภายในเวลา 7.00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.4% ที่ 98.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.7% ที่ 102.88 ดอลลาร์ เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองลดลงประมาณ 4% ในวันจันทร์

นอกจากนี้ ทองคำ ราคาเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 1,910.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ EUR/USD ซื้อขายลดลง 0.2% ที่ 1.0690

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!