แนะนำทยอยสะสมหุ้นต่อเนื่อง Top Pick เลือก AOT, CPN และ TIDLOR

การผ่าน Infrastructure Bill 1.2 ล้านล้านUSD ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งน่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวก และกระแส Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยในบ้านมีประเด็นที่น่าติดตาม ในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่มีการกล่าวถึง ช้อปดีมีคืน มากขึ้นซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะถูกนำมาใช้เป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่อง กับค้าปลีก ส่วนการประชุม กนง. วันพุธนี้ เชื่อว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 0.5% ต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยเห็นว่าน่าจะคงไปตลอดปี 2564 และต่อเนื่อง ในปี 2565 ส่วนเกณฑ์ในการคัดกรองหุ้น SET50 / 100 ในรอบนี้น่าจะมีการ นำเกณฑ์เรื่อง Cash Balance มาพิจารณาเพิ่มเติมเพียงอย่างเดียว ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานมีน้ำหนักค่อนไปทางบวก SET Index น่าจะ เคลื่อนไหวลักษณะ Sideway Up ในกรอบ 1617 – 1632 จุด พอร์ตจำลอง วันนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หุ้น Top Pick เลือก AOT (BK:AOT),แนะนำทยอยสะสมหุ้นต่อเนื่องTopPickเลือกAOTCPNและถอนเงินสดไม่ได้ CPN และ TIDLOR

หลายปัจจัยต่างประเทศเมื่อวันศุกร์ สร้าง Sentiment บวกต่อ SET Index วันนี้ เชื่อว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยคาดได้ Sentiment บวกจากประเด็นต่างประเทศ คือ 1. ตลาดหุ้นโลกแข็งแกร่งและมีปัจจัยหนุนเมื่อวันศุกร์ : แม้ผลประชุม Fed กลางอาทิตย์ประกาศชัดคือเริ่ม QE tapering ตั้งแต่เดือน พ.ย.64 และตลอด สัปดาห์ที่แล้ว พบว่าตลาดหุ้นโลกจะผันผวนแต่ไม่ได้ปรับฐานเหมือนในอดีต แต่กลับปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ยังทำ All Time high โดยมีปัจจัยหนุนนอกเหนือจากผลประกวบการงวด 3Q64 ของบริษัทในสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง คือมาจาก 1.) ตัวเลขแรงงานสหรัฐ ออกมาแข็งแกร่ง สะท้อนจาก Non farm payrolls เดือนต.ค.64 เพิ่มขึ้น 5.31 แสนราย สูงกว่าที่ Consensus คาด 4.5 แสนราย หนุนอัตราการ ว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.6% มากกว่าที่ consensus คาดที่ 4.7% และ จาก 4.8% ในเดือน ก.ย. 2.) สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมาย โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure bills) มูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์หลักๆ คือ ถนน, สนามบิน, รถไฟ และที่ตลาดให้น้ำหนัก คือ พลังงานสะอาด รวมถึง สนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV (ดังรูป) โดยรวมประเมินเป็นบวกต่อราคาวัสดุ ก่อสร้าง อาทิ เหล็ก ฯลฯ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ แม้ช่วงสั้นจะตอบรับจาก ข่าวนี้ไประดับนึงแล้ว 3.) บริษัท Pfizer รายงานผลทดสอบยา COVID ให้ ประสิทธิภาพสูงถึง 89% ลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตถือเป็นบวกต่อ เศณษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวโลก 4.)รายงานตัวเลขยอดส่งออกจีน ใน เดือน ต.ค. ขยายตัว 27.1%yoy ดีกว่าที่ Consensus คาด 24.5% และ ประเด็นปัญหาวิกฤตพลังงานในจีนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายดีขึ้นและใกล้ กลับมาปกติ ทำให้มุมมองช่วงที่เหลือของเศรษฐกิจจีนยังไม่แย่กว่าที่ก่อนหน้า นี้ตลาดมีมุมมองเชิงลบ

สกุลเงิน Dollar ยังเดินหน้าแข็งค่า ล่าสุด อยู่ที่ 94.3 จุด แต่หากประเมินจาก เงินบาทกลับไม่ได้อ่อนค่าแรงตาม ล่าสุด ช่วงสั้นกลับแข็งค่า เช้านี้กลับแข็งค่า ลงไปแตะ 33.0 บาท ถือเป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow ต่างชาติ เพราะ ต่างชาติได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คือ จากเงินบาที่แข็งค่า บวกต่อ SET Index เดินหน้าต่อ

ตลาดฯปรับปรุงเกณฑ์สภาพคล่อง และเกณฑ์ดัขนีใหม่ ชอบ TIDLOR BLA AOT ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดฯอยู่ในช่วงปรับปรุงเกณฑ์ต่างเพื่อสร้างเสถียรภาพให้ดัชนีต่างๆ ทั้งจากการเปิดรับฟังความเห็น (Public Hearing) ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย หุ้นร้อนแรง ตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.นี้ ยกระดับความเช้มข้นมาตรการระดับ 1, 2 และ 3 ซึ่งทางฝ่ายวิจัยฯ เห็นด้วยกับทางตลาดฯ เนื่องจากปี 2564ytd มีจำนวนหุ้นที่ซื้อขาย ร้อนแรงจนติด Cash Balance สูงถึง 326 บริษัท เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว จากปี 2563 และประเด็นนี้ช่วยสร้างเสถียรภาพ และน่าจะไม่กระทบต่อภาพรวมตลาดมากนัก เนื่องจากหุ้นที่ติด Cash Balance ที่คงค้างมีสัดส่วนรวมไม่ถึง 1% ของ Market Cap. ตลาด

และล่าสุดทางตลาดได้สรุปผลการรับฟังการคำนวณเกณฑ์ดัชนี SET50 SET100 ใหม่ คือ เห็นด้วยกับการปรับใช้ทั้ง 2 กรณีเนื่องจากจะช่วยลดความผันผวนของ ดัชนีอ้างอิงหรือ Benchmark ที่กองทุนนิยมใช้ จากหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ได้ โดยทางตลาดฯ จะเริ่มใช้เกณฑ์เชิงคุณภาพ (เพิ่มเกณฑ์ Cash Balance มา เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์สภาพคล่อง) ในการคำนวณรอบ 1H65 ที่จะถึงนี้เลย ส่วน เกณฑ์ Free Float Adj. อยู่ในช่วงจัดทำนิยามและความหมายของ Strategic partner ให้ชัดเจน เพื่อความราบรื่นในการเปลี่ยนผ่านในระยะถัดไป

เบี้องต้นฝ่ายวิจัยวิเคราะห์หุ้นที่ได้หือเสียประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวดังนี้

1.หุ้นใน SET100 ที่ติด Cash Balance หรือ Trading Alert บ่อย อาจถูกกดดัน หรือมูลค่าซื้อขายมีโอกาสลดลง โดยเฉพาะหุ้นที่มีจำนวนเดือนในการคำนวณ เกณฑ์สภาพคล่องลดลงมาก จนมีโอกาสถูกคัดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ดังตารางทางด้านล่าง เช่น หุ้น DELTA มีโอกาสถูกคัดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 มากสุด เนื่องจากติด Cash Balance ไป 7 เดือน เลย เหลือเดือนในการคำนวณเกณฑ์สภาพคล่องเพียง 5 เดือน เกณฑ์ขั่นต่ำคือ 6 เดือน เป็นต้น

2. หุ้นขนาดใหญ่ที่มี Free Float น้อย มีโอกาสฟื้นตัวในช่วงสั้น เนื่องจากผ่อน คลายจากยังไม่ใช้เกณฑ์ Free Float Adj. ในรอบนี้โดยฝ่ายวิจัยคัดกรองมามี หุ้นได้ประโยชน์เป็นอันดับต้นๆ ตามตารางทางด้านล่าง โดยชื่นชอบ หุ้น AOT, GULF, OR, ADVANC, PTTEP, GPSC, BJC

สรุปการปรับเกณฑ์ดัชนีใหม่ของทางตลาดฯ จะมีทั้งหุ้นที่ได้และเสียประโยชน์ ในช่วงสั้น แต่จะช่วยทำให้ดัชนี SET50 และ SET100 มีเสถียรภาพมากขึ้น โดย ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำหุ้นที่มีโอกาสสูงที่จะเข้าคำนวณดัชนีในรอบ 1H65 อย่าง TIDLOR (มีโอกาสสูงเข้าทั้ง SET50 และ SET100), BLA (มีโอกาสสูงเข้า SET100) และ AOT (ผ่อนคลายประเด็น Free Float Adj. เป็นอันดับต้นๆ)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!