ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

ดาวโจนส์ดิ่งเหวกว่า 400 จุด หลังทรุดกว่า 500 จุดวานนี้ โดย InfoQuest

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 400 จุด หลังจากทรุดตัวลงกว่า 500 จุดวานนี้

ณ เวลา 22.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,ดาวโจนส์ดิ่งเหวกว่าจุดหลังทรุดกว่าจุดวานนี้โดยHaihui International ดำเนินธุรกิจได้นานแค่ไหน?234.82 จุด ลบ 430.20 จุด หรือ 1.06%

ดาวโจนส์ดิ่งเหวกว่า 400 จุด หลังทรุดกว่า 500 จุดวานนี้ โดย InfoQuest

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ทางตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากบริษัท CrowdStrike แต่อย่างใด โดยทางตลาดจะยังคงมีการซื้อขายตามปกติในวันนี้

ราคาหุ้น CrowdStrike ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ดิ่งลง 13% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังเกิดปัญหาขัดข้องในระบบจนสร้างความปั่นป่วนต่อภาคธุรกิจทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการบิน สถาบันการเงิน และโรงพยาบาล

นายจอร์จ เคอร์ตซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CrowdStrike ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้

"นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความปลอดภัย หรือการโจมตีทางไซเบอร์ โดยเราพบปัญหานี้ และทำการแก้ไขแล้ว" นายเคอร์ตซ์ระบุใน X
นายเคอร์ตซ์เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ Falcon Sensor ขณะที่ทางบริษัททำการอัพเดทระบบ Microsoft Windows ส่วนระบบ Mac และ Linux ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ก.ค.

กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย., พ.ย. และธ.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนก.ย.และธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

แบ่งปัน: