ดอลลาร์สหรัฐต่อเยนปรับขึ้นเป็น 154.44 ขณะที่ตลาดจับตาดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ในวันพุธ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 154.44 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมกราคมที่สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ส่งเสริมความคาดหวังในตลาดว่าธนาคารเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไป

ตามข้อมูลที่เผยแพร่ ดัชนี CPI เดือนมกราคมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.3% และดัชนี CPI พื้นฐานก็เพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งดัชนี CPI ทั้งฉบับเพิ่มขึ้น 3.0% เทียบปีต่อปี และดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.3% เทียบปีต่อปี ทั้งสองตัวเลขเกินความคาดหมายของตลาด แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงสูง ซึ่งอาจทำให้เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไป

Adam Button หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาด ForexLive กล่าวว่า แม้ว่าจะมีปัจจัยชั่วคราวบางอย่างที่อาจมีผลกระทบต่อข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมกราคม แต่เฟดได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าภาวะเงินเฟ้อจะใกล้เคียง 2% การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในตลาดฟิวเจอร์สก็เปลี่ยนแปลงไป ในขณะนี้คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 25 จุดพื้นฐานในปีนี้ แทนที่จะเป็น 37 จุดพื้นฐานที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น 0.02% มาอยู่ที่ 107.95 แม้ว่าจะเคยแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 108.52 ขณะที่ตลาดย่อยความหมายของรายงานเงินเฟ้อ ทำให้การเพิ่มขึ้นของดอลลาร์หดตัวลง Thomas Simons หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของ Jefferies ระบุในรายงานว่า ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนมกราคมอาจมีลักษณะเฉพาะและไม่น่าจะต่อเนื่องไปในหลายเดือนต่อจากนี้

ในยุโรป ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป Nagel แสดงความเห็นว่าธนาคารกลางยุโรปควรผ่อนคลายนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปแทนการแสวงหาอัตราดอกเบี้ยที่ "เป็นกลาง" ซึ่งทำให้เงินยูโรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ยูโรปิดตลาดปิดซื้อขายในนิวยอร์กเพิ่มขึ้น 0.27% มาอยู่ที่ 1.0388 ดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดยังเฝ้าจับตามองนโยบายภาษีที่อาจจะนำมาใช้โดยรัฐบาลทรัมป์ James Knightley หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของ ING เตือนว่าภาษีที่อาจจะเกิดขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทำเนียบขาวระบุว่า จะประกาศการใช้ภาษีเทียบเคียงกับทุกประเทศที่ส่งออกสินค้ามาสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ และรัฐบาลทรัมป์ยังมีแผนเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม

ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว