กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ “ขึ้น” ดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.75%
หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับสูง Bank of Thailand Benchmark Interest Rate Actual: 1.75% Previous: 1.50% KTBGM: 1.75% Consensus: 1.75% กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ “ขึ้น” ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.75% ตามคาด หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องหนุนโดยภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับสูงและมีความเสี่ยงจากแรงหนุนด้านอุปสงค์และการส่งผ่านต้นทุน ทำให้การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นยังคงเหมาะสม กนง. มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปี 2023 ลดลงเล็กน้อย เหลือ +3.6%y/y ตามภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ที่อาจทำให้ภาคการส่งออกของไทยหดตัว -0.7%y/y ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องสู่ระดับ 2.9% และระดับ 2.4% ในปี 2023 ตามลำดับ ทั้งนี้ กนง. พร้อมปรับขนาดและเงื่อนไขเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปจากที่ กนง. ได้ประเมินไว้ เราคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีกครั้ง +0.25% จบรอบขาขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 2.00% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมซึ่งต้องจับตามองผลการประชุมอย่างใกล้ชิดว่าจะมีมติเป็นเอกฉันท์ หรือ มีเสียงแตกให้คงอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ไทย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยในตลาด เช่น THOR ระยะสั้น มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้จากระดับปัจจุบัน เพื่อสะท้อนมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่จะเริ่มกลับมามองว่า จุดสูงสุดของดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 2.00% จากระดับ 1.75% ที่ตลาดได้มองก่อนหน้า การประชุมครั้งถัดไป: 31 พฤษภาคม 2566 กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ “ขึ้น” ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.75% ย้ำจุดยืนการขึ้นดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กนง. คงมุมมองว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจไทยจะโตราว +3.6% ได้ในปีนี้ และขยายตัว +3.8% ในปีหน้า หนุนโดยแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวจากที่หดตัวและจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มชะลอตัวลง สู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปี โดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 2.9% และระดับ 2.4% ในปีหน้า ตามแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานที่จะลดลง อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะอยู่ระดับสูงได้นานกว่าคาด ตามการส่งผ่านต้นทุนและแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ตามภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจ กนง. จึงมีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% กนง. มองว่า การทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในอนาคต อย่างไรก็ดี กนง. ก็พร้อมปรับขนาดและเงื่อนไขเวลาของการขึ้นดอกเบี้ย ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ภายใต้ความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ อาทิ 1. อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับสูงได้นานกว่าคาด ตามการส่งผ่านต้นทุน และแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ และ 2. เศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกเผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้น จากแนวโน้มเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศพัฒนาแล้วที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น และ ปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐฯ และยุโรป เราคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง +0.25% จบรอบขาขึ้นดอกเบี้ยที่ 2.00% หลังเศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มุมมองของ กนง. ที่ยังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยและยังคงเฝ้าระวังความเสี่ยงเงินเฟ้อชะลอลงช้า ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก +0.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม สู่ระดับ 2.00% จบรอบขาขึ้นดอกเบี้ย โดยเรามองว่า การขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจมีโอกาสไม่มากนัก หากพิจารณาจาก 1) ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วในการประชุมเฟดเดือนพฤษภาคม 2) แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีโอกาสชะลอตัวลงมากขึ้น โดยเราคงมุมมองเดิมว่า เศรษฐกิจหลัก ทั้งสหรัฐฯ และยุโรปยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในช่วงปลายปี 3) หากราคาสินค้าพลังงาน อย่าง ราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับตัวขึ้นกลับสู่โซน 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือสูงกว่านั้น แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานก็จะลดลงต่อ และ 4) ในช่วงการประชุมในเดือนสิงหาคม ซึ่งถัดจากการประชุม กนง. เดือนพฤษภาคม ยังคงเป็นช่วงที่การเมืองไทยยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงและทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจยังไม่ชัดเจน หรืออาจมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เราจะจับตามองผลการประชุม กนง. ในเดือนพฤษภาคม อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ว่าจะมีเสียงโหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยมากน้อยเพียงใด หรือ กนง. ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ตามเดิม และรอประเมินการปรับมุมมองของ กนง. ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงผลการประชุมเฟด เรามองว่า บอนด์ยีลด์ระยะสั้นของไทย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เช่น THOR 2 ปี อยู่ในระดับที่ต่ำไป หากดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับขึ้นได้ถึง 2.00% (หรือมากกว่า) ทำให้บอนด์ยีลด์ไทย รวมถึงอัตราดอกเบี้ย THOR มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ในระยะสั้น เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่จะเริ่มมองจุดสูงสุดดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ 2.00% จากที่ผู้เล่นในตลาดเคยประเมินไว้แถว 1.75% ก่อนเข้าการประชุม เราจึงมองว่า นักลงทุนควรรอจังหวะที่บอนด์ยีลด์มีการปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อสะสม (Buy on กนงมีมติเป็นเอกฉันท์ampldquoขึ้นamprdquoดอกเบี้ยสู่ระดับแอปแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศDip)
คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!
คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
-
ราคาทองคำทรงตัวที่ $2,715 จากความไม่แน่นอนเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ย โดย
-
บิทคอยน์จะช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น – วุฒิสภาสหรัฐ โดย Cryptosiam
-
Micron กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q2 โดย
-
คาร์ดาโน โซลานา อาจตามบิทคอยน์และอีเธอเรียมขึ้นในไม่ช้า
-
ทองคำมีการเคลื่อนไหวโดยมีแรงกดเล็กน้อยและผันผวนเล็กน้อย
-
Coinbase ถูกรัฐบาลอเมริกากำกับดูแลแล้ว! โดย Cryptosiam
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- ดอลลาร์ลง ความหวังของความรุนแรงที่ลดลงในยูเครนทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น โดย
- น้ำมันร่วงหลังจากราคาสำหรับการซื้อขายล่วงหน้าเบรนท์เพิ่มขึ้น โดย
- ดอลลาร์ร่วง เยนกำลังต่อสู้กับยโนบายผ่อนคลายของ BOJ โดย
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงโดยฝรั่งเศสเป็นผู้นำในการลดลง
- ชาวรัสเซียรุ่นใหม่เริ่มมองคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยต่อการลงทุนมากขึ้น โดย Cryptosiam
- ผู้ก่อตั้ง Ethereum ยอมรับค่าธรรมเนียมเป็นอุปสรรคในการใช้งานเครือข่าย โดย Cryptosiam
- บิทคอยน์ VS ทองคำ: ใครจะขึ้นมาเป็นสินทรัพย์สำรองใหม่ของโลก?
- Binance มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นแตะ 150 ล้านคน แม้จะมีการฟ้องร้องทางกฎหมายในสหรัฐฯ
- ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และอัตราดอกเบี้ยเฟดจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดต่อไปในสัปดาห์นี้
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- ทองฟิวเจอร์ร่วงหลุด $2,620 ซื้อขายเบาบาง โดย InfoQuest
- เกาหลีเหนือกำลังร่ำรวยจากการ Hack เหรียญคริปโตนอกประเทศตัวเอง โดย Siamblockchain
- หุ้นยุโรปสูงขึ้น; Ted Baker ปฏิเสธข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ โดย
- ธนาคารกลางยูกันดา เดินหน้าศึกษา CBDC แล้ว โดย Cryptosiam
- ศาลสหรัฐฯ อนุมัติข้อตกลงระหว่าง Binance.US และ SEC
- ธนาคารกลางยูกันดา เดินหน้าศึกษา CBDC แล้ว โดย Cryptosiam
- Grayscale จ่อฟ้อง หาก SEC ไม่อนุมัติ Bitcoin ETF แบบ Spot โดย Siamblockchain
- อดีตนักการเมืองสหรัฐเชื่อ รัฐบาลยังคงหาทางแบนบิทคอยน์อยู่ โดย Cryptosiam
- บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ...
- Binance บริจาคเงินให้กับ Unicef เป็นเหรียญคริปโต โดย Cryptosiam
- น้ำมันร่วงผลจากการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ โดย
- Google กำลังยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสิ่งที่เรียกว่า Non
- วอลเลอร์กลายเป็นตัวเต็งใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐ
- CEO ของ BlackRock ชี้สงครามรัสเซีย
- Polygon เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการพร้อมทั้งให้ชุมชนลองเดาว่าเป็นอะไร โดย Siamblockchain
- เกาหลีเหนือกำลังร่ำรวยจากการ Hack เหรียญคริปโตนอกประเทศตัวเอง โดย Siamblockchain
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- เจ้าชายฟิลิปแห่งเซอร์เบียเผยว่า “บิทคอยน์เป็นทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อได้” โดย Cryptosiam
- น้ำมันคงคลังลดลง 3 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว: API โดย
- ยลโฉม Bitkub Metaverse เวอร์ชันล่าสุด มีฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าสนใจ? โดย Siamblockchain
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร