ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

อัตราการว่างงานในเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด สงครามการค้าระหว่างยุโรปและอเมริกาใกล้จะปะทุ

11.12  欧元美元

อัตราการว่างงานในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเกินคาด

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 6.3% จาก 6.2% ในเดือนเมษายน ซึ่งเกินกว่าที่ตลาดคาดไว้ สะท้อนให้เห็นถึงท่ามกลางการกีดกันทางการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่บริษัทในยุโรปยังคงระมัดระวังในการจ้างงาน อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นนี้ถูกผลักดันโดยอิตาลี โดยอัตราการว่างงานของประเทศนี้เพิ่มขึ้นจาก 6.1% ในเดือนเมษายนเป็น 6.5% ในเดือนพฤษภาคม

แม้อัตราการว่างงานยังอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางการค้าที่ต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัท ทำให้บางบริษัทในยุโรปเลือกที่จะคงจำนวนพนักงานปัจจุบันไว้แทนที่จะขยายการจ้างงาน

อัตราการว่างงานในเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด สงครามการค้าระหว่างยุโรปและอเมริกาใกล้จะปะทุ

การเจรจาการค้าระหว่างยุโรปและอเมริกาเข้าสู่ช่วงสำคัญ

เมื่อใกล้ถึงเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคม การเจรจาการค้าระหว่างยุโรปและอเมริกาได้เข้าสู่ช่วงสำคัญ ทรัมป์ได้กล่าวว่าจะไม่พิจารณาขยายเส้นตายการเจรจานี้ หากไม่ได้ข้อยุติ สหรัฐฯ จะเก็บภาษีสูงถึง 50% ต่อสินค้าทั้งหมดจากสหภาพยุโรป ปัจจุบัน สหรัฐฯ ได้เก็บภาษีรถยนต์จากสหภาพยุโรปที่ 25% และสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมที่ 50% และวางแผนขยายการเก็บภาษีไปยังชิปและทรัพยากรเหมืองแร่

รายงานจาก Financial Times ระบุว่า สหภาพยุโรปได้สั่งให้ดูแลการเจรจาการค้าของ เชฟโชวิช ให้มีท่าทีที่เข้มแข็งขึ้นโดยยืนยันว่าสหรัฐฯ ต้องบรรจุข้อตกลงการยกเลิกหรือลดภาษีลงในกรอบข้อตกลง สหภาพยุโรปหวังว่าจะมีข้อตกลงทางการเมืองอย่างน้อยก่อนเส้นตายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีสูงใหม่

นักวิเคราะห์เห็นว่าผลการเจรจาการค้าระหว่างยุโรปและอเมริกาจะส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมการผลิตในยุโรปและแนวโน้มการส่งออก ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดที่สำคัญในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้

แนวโน้มปลดพนักงานของบริษัทและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

เนื่องจากความต้องการทั่วโลกที่ชะลอตัวลงและการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตรายใหญ่ในยุโรป เช่น ออดี้ ซีเมนส์ และไทเซนกรุปเพอร์ ได้ประกาศแผนการปลดพนักงานเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและรับมือกับความไม่แน่นอน ขณะเดียวกัน รายงานจาก S&P Global แสดงให้เห็นว่า แม้คาดการณ์ธุรกิจการผลิตจะดีขึ้นในเดือนมิถุนายน แต่การปลดพนักงานยังคงรวดเร็วกว่าในเดือนพฤษภาคม

ข้อมูลระบุว่า อัตราการว่างงานในอิตาลีเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% สูงกว่าที่คาดไว้และค่าเดิมที่ปรับแล้วที่ 6.1%; ในขณะที่ จำนวนผู้ว่างงานในสเปนเดือนมิถุนายนลดลง 4.89 หมื่นคน แต่การลดน้อยนี้แสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่ช้าลง

ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐอ่อนแออย่างไม่คาดคิดกระตุ้นคาดการณ์ลดดอกเบี้ย

ข้อมูลจาก ADP ของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า จำนวนการจ้างงานในภาคเอกชนเมื่อเดือนมิถุนายนลดลง 3.3 หมื่นคน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปีที่มีการเติบโตติดลบ โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของพนักงานในภาคบริการ ก่อให้เกิดความกังวลในตลาดเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดแรงงานในสหรัฐ

หลังการประกาศข้อมูล อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลง ดัชนีฟิวเจอร์สแรงกดดัน และการขึ้นราคาของดอลลาร์หดแคบลง นักเทรดได้เพิ่มการเดิมพันต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐอย่างน้อยสองครั้งก่อนสิ้นปี 2025 โดยความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยสามครั้งก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดกำลังจับตาดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้เวลา 20:30 นาฬิกา ตามเวลาปักกิ่ง ซึ่งคาดว่าจะสื่อถึงการเติบโตของการจ้างงานที่ชะลอตัวและอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาจให้ข้อมูลแก่การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้

แนวโน้มเศรษฐกิจยากจะคาดเดา

จากมุมมองโดยรวม อัตราการว่างงานในยูโรโซนที่เพิ่มขึ้น ภัยคุกคามจากสงครามการค้าระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา การจ้างงานในสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด ล้วนแต่นำเงาถมลงบนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง

เมื่อการเจรจาการค้าระหว่างยุโรปและสหรัฐเข้าสู่ช่วงสำคัญ และธนาคารกลางของสหรัฐจับตาดูผลกระทบของภาษีต่อเงินเฟ้อและอาจปรับนโยบาย ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน นักลงทุนควรจับตาข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปและอเมริกาที่จะประกาศในสัปดาห์ข้างหน้า ความคืบหน้าของการเจรจาการค้า และคำแถลงของนโยบายธนาคารกลาง เพื่อประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในครึ่งหลังของปีหรือไม่

ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว

แบ่งปัน: