ธนาคารกลางสหรัฐ: การลดอัตราดอกเบี้ยสามารถทำได้ แต่ควรชะลอจังหวะลง

ประธานธนาคารกลางชิคาโก กูลสบี กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับการจ้างงานเต็มที่และอัตราเงินเฟ้อจะลดลงบ้าง แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนทางนโยบาย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะช้าลง

กูลสบีกล่าวในการสัมภาษณ์ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันดี การจ้างงานเต็มที่และเงินเฟ้อในระดับปานกลางสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์และปัจจัยไม่แน่นอนอื่น ๆ อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การตัดสินใจของเฟดจะระมัดระวังมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่เร็วเกินไป

“เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเต็มที่ อัตราเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อย แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงในนโยบายภายในประเทศ การลดอัตราดอกเบี้ยจะช้าลงกว่านี้” กูลสบีกล่าวเพิ่มเติม เขาเน้นว่างแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐเคยใช้นโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา แต่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนในขณะนี้ จำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อสังเกตและประเมินข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดอยู่ในช่วง 4.25% ถึง 4.5% กูลสบีชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เฟดยังคงระมัดระวังต่อแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดแรงงานและราคาสินค้า

แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างมั่นคง แต่กูลสบีก็เตือนว่าผลของนโยบายการเงินอาจล่าช้าในช่วงเวลาในอนาคต เฟดจะยังคงติดตามข้อมูลการจ้างงานและดัชนีเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะไม่เกิดการร้อนทางเศรษฐกิจ

กูลสบีเน้นย้ำว่าผลกระทบจากนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์และปัญหาการอพยพเข้าประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน เฟดต้องระมัดระวังต่อปัจจัยเหล่านี้และคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจในการกำหนดนโยบายการเงิน

สรุปง่าย ๆ กูลสบีระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนทางนโยบายต้องการให้เฟดมีความระมัดระวังและค่อย ๆ ลดอัตราดอกเบี้ย ไม่ด่วนในการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว