ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.52 อ่อนค่าต่อเนื่อง ตลาดกังวลความไม่ชัดเจนเฟดลดดอกเบี้ย โดย InfoQuest

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.45 บาท/ดอลลาร์ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.44-35.67 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง และเป็นไปตามทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง แล้วหันมาถือเงินดอลลาร์มากขึ้น เนื่องจากมีความไม่มั่นใจในระยะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย"บาทยังอ่อนค่าต่อ ตามทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค โดยวันนี้อ่อนค่ามากสุดที่ 35.67 เป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 5สัปดาห์ น่าจะมาจากปัจจัยที่ตลาดไม่แน่ใจระยะเวลาที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย ทำให้วันนี้ ในภูมิภาคลงไปหนัก ทั้งตลาดหุ้นและตลาดเงิน"นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.40-35.65 บาท/ดอลลาร์ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ตลาดรอดูในคืนนี้ คือ ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.

* ปัจจัยสำคัญ- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.72 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.21 เยน/ดอลลาร์- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0875 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0879 ดอลลาร์/ยูโร- ดัชนี ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,ภาวะตลาดเงินบาทปิดอ่อนค่าต่อเนื่องตลาดกังวลความไม่ชัดเจนเฟดลดดอกเบี้ยโดยดาวน์โหลดแอปเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ fxcm FXCM380.65 จุด ลดลง 21.07 จุด (-1.50%) มูลค่าการซื้อขาย 56,707.53 ล้านบาท- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,742.20 ลบ. (SET+MAI)- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ธ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 88.8 ลดลงจากระดับ 90.9 ในเดือนพ.ย. จากภาคการผลิตที่ชะลอลง, การแข่งขันสูงในด้านราคา และกำลังซื้อของประชาชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากปัญหาหนี้ครัวเรือน- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตั้งแต่การออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้วงกว้างแบบปูพรมในช่วงโควิด-19 แล้วปรับเป็นมาตรการช่วยเหลือแบบเฉพาะจุด หลังจากที่สถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น โดยยึดหลักการทำอย่างครบวงจรและถูกหลักการ- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 1,300,363 คนสร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 63,205 ล้านบาท โดยอันดับ 1 ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีน- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสนใจกับประเด็นเรื่องการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน เพราะเป็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางการคาดการณ์ในเดือนธ.ค.- บรรดากองทุน Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ดึงดูดเม็ดเงินได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 2 วันแรก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อกองทุน Spot Bitcoin ETF หลังได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!