3 เหตุผลอธิบายว่าทำไมตลาดคริปโตฯ ถึงยังไม่ยอมขึ้น
หลังจากใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการอธิบายเหตุผลทางประวัติศาสตร์ว่าทำไมผู้นำของรัสเซียถึงเชื่อว่ายูเครนไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศของ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ได้สั่งให้ทหารเกือบ 200,เหตุผลอธิบายว่าทำไมตลาดคริปโตฯถึงยังไม่ยอมขึ้นการซื้อขายของผู้ดูแลสภาพคล่องตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ000 นายบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกา ยุโรป และยูเครนซึ่งเป็นผู้ถูกรุกราน เชื่อว่าประเทศในยุโรปตะวันออกเป็นดินแดนที่มีอธิปไตยเป็นของตัวเอง การบุกรุกได้สร้างความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กดดันรัฐบาลไปพร้อมๆ กับตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน นักลงทุนในตลาดบางคนเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่สามารถใช้เป็นทั้งการป้องกันความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อและเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ก็กลับมีคำถามว่าทำไมทั้งๆ ที่มีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022 และไฟสงครามที่ร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกในปี 1945 แต่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลับไม่ปรับตัวขึ้นเลย ถึงแม้ว่าบิทคอยน์จะเริ่มสร้างชื่อให้กับตัวเองมาตั้งแต่ปี 2010 แต่สกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ กลับพึ่งมาได้รับความนิยมในช่วงห้าปีหลังสุดเท่านั้น การเปิดตัวบิทคอยน์ฟิวเจอร์สในช่วงปลายปี 2017 ได้นำบิทคอยน์เข้าสู่กระแสหลัก ผลักดันราคามีสูงกว่า 20,000 ดอลลาร์ต่อหรึ่งเหรียญ แม้ว่าจะมีความผันผวนสูงมากก็ตาม ในปี 2010 บิทคอยน์เคยมีการซื้อขายอยู่ที่ 5 เซนต์ต่อหนึ่งเหรียญ แต่ในช่วงปลายปี 2013 ราคาบิทคอยน์กลับสามารถพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 1,135.45 ดอลลาร์ได้ ก่อนจะร่วงลงมาต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ จนถึงปี 2017 เมื่อบิทคอยน์กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์ทางสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น: ในปี 2017 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง 762.38 ดอลลาร์ถึง 19,862 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ จนถึงตอนนี้ในปี 2022 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง 33,076.69 ถึง 47,937.17 ดอลลาร์ มีจุดต่ำสุดของ ราคาที่ยกตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดก่อนหน้าและยังมีโอกาสที่ปีนี้ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวสูงขึ้นได้ สำหรับคำถามที่ว่าทำไมสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ปรับตัวขึ้น ทั้งๆ ที่มีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด? เรามีเหตุผลอธิบายอยู่ในบทความนี้ แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น ผู้อ่านควรได้ทำความเข้าใจภาพรวมของตลาดสกุลเงินดิจิทัลในปัจจุบันก่อน ในวันที่ 24 พฤศจิกายน CME Bitcoin Futures ได้ขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 69,355 ดอลลาร์ จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่มา: CQG ตั้งแต่สร้างจุดสูงสุดนั้นได้ ราคาบิทคอยน์ก็ปรับตัวลดลง จากกราฟรายสัปดาห์รูปนี้จะเห็นว่าบิทคอยน์ฟิวเจอร์สในวันที่ 24 มกราคมตกลงสู่จุดต่ำสุดที่ 32,855 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ ทำให้ราชาสกุลเงินดิจิทัลสูญเสียมูลค่าไปมากกว่าครึ่ง ตั้งแต่นั้นมา การเคลื่อนไหวของบิทคอยน์ก็ไม่ได้ขยับตัวหรือเคลื่อนไหวไปไกลจากบริเวณจุดต่ำสุดบริเวณนี้มากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ราคายังลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 34,295 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พฤติกรรมล่าสุดที่สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลง ไปพร้อมๆ กับการทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลง ก่อให้เกิดรูปแบบทางเทคนิคที่เรียกว่า “รูปลิ่ม” (Wedge) ซึ่งมักจะถูกตีความหมายทางเทคนิคว่ากำลังจะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเทรนด์ปัจจุบัน ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ที่กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ราคา แต่ในความเห็นของเรา ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีอุปสรรคสำคัญสามประการที่ขวางกั้นขาขึ้นในช่วงเวลานี้เอาไว้ ถึงแม้ว่านักเก็งกำไรและนักลงทุนจำนวนมากยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ประเภทหลัก แต่รัฐบาลไม่เคยมองเช่นนั้น ข้ออ้างและการวิพากษ์วิจารณ์ด้านกฎระเบียบมากมายของรัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การใช้สกุลเงินดิจิทัลในเรื่องที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ความกลัวซึ่งเป็นความจริงที่แฝงอยู่ก็คือสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นอุปสรรคในการขยายความสามารถในการเพิ่มปริมาณเงินในระบบ ที่พวกเขาสามารถพิมพ์เงินเพิ่มเมื่อไหร่ และเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ ถึงกระนั้น อีกฉากหน้าหนึ่ง รัฐบาลก็ทำเสมือนว่ามีความต้องการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ เหมือนเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาไม่เคยปิดกั้นการเติบโตทางเทคโนโลยี ลึกๆ พวกเขารู้ดีว่าบล็อกเชนเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติฟินเทค การเพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และการบันทึกธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้นรัฐจึงมีความพยายามที่จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลโดยรัฐบาลขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะสามารถดึงให้ผู้คนยังคงอยู่กับระบบการเงินแบบเดิมๆ ได้ (ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรหากว่าพวกเขายังสามารถพิมพ์เงินได้อย่างไม่จำกัด) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสองสกุลเงินดิจิทัลแนวหน้าอย่างบิทคอยน์และอีเธอเรียมยังมีความผันผวนสูง แม้ว่าจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 ทั้งสองสกุลเงินต่างก็สามารถสร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ ก่อนที่จะร่วงลงมาอยู่ในจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่มา: Barchart กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นวันที่บิทคอยน์เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ก่อนจะสร้างรูปแบบการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงที่สำคัญที่สุด และทำให้ราคาบิทคอยน์ร่วงลงเนื่องจากมีแรงเทขายมากกว่าแรงซื้อ ที่มา: Barchart กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นช่วงเวลาเดียวกันของสกุลเงินอีเธอเรียมที่เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาล และปรับตัวลดลงมาในวันเวลาเดียวกันกับบิทคอยน์ การเปลี่ยนเทรนด์ทางเทคนิคทำให้นักลงทุนหลายคนต้องสูญเสียเงินจากการเก็งกำไรตลาดสกุลเงินดิจิทัล หลังจากเจ็บตัวมาไม่น้อย นักลงทุนหลายคนจึงยังไม่กล้าที่จะเสี่ยงลงทุนกับตลาดคริปโตฯ ตอนนี้ และเลือกที่จะรอดูไปอีกสักพัก จนกว่าจะแน่ใจว่าขาขึ้นของตลาดคริปโตฯ กลับมาแน่นอนแล้ว ก่อนที่สกุลเงินดิจิทัลถือกำเนิด ทองคำได้เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด เพราะสกุลเงินดิจิทัลในตอนนี้ยังอยู่ในขาลง นักวิเคราะหํหลายคนจึงได้ตั้งสมมติฐานว่านักลงทุนได้หันหน้าเข้าหาสินทรัพย์สำรองปลอดภัยอื่น ที่มีความน่าเชื่อถือมานานนับพันปีมากกว่า หากได้พิจารณาพฤติกรรมราคาทางเทคนิค จะเห็นว่าในช่วงที่คริปโตฯ คึกคัก ราคาทองคำได้สะสมแรงขาขึ้น ในรูปแบบของลิ่ม และยกจุดต่ำสุดขึ้นมาตลอดทั้งปี 2021 ที่มา: CQG รูปนี้แสดงให้เห็นการซุ่มสร้างขาขึ้นของราคาทองคำ หลังจากแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $2,063 ต่อออนซ์ ในเดือนสิงหาคม 2020 ราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงมาตลอดปี 2021 อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นทองคำสามารถรักษาทรงให้ไม่ลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,700 ได้ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ทองคำก็ได้หลุดกรอบไซด์เวย์ออกมา กลายเป็นขาขึ้นในปัจจุบัน เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำมีราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อวานนี้ก็สามารถขึ้นแตะ 2,000 ดอลลาร์ ได้อีกครั้งจากรูปแบบลิ่มที่เกิดขึ้น จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำในตอนนี้ มีแนวโน้มที่ขาขึ้นที่ชัดเจนมากกว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าจะเห็นบิทคอยน์ยังคงนั่งซึมอยู่ต่ำกว่า $40,000 อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สกุลเงินดิจิทัลมีความได้เปรียบเหนือสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำและน้ำมันคือความคล่องตัว และความสะดวกสบายในการย่อยขนาดมูลค่าของตัวเอง วันนี้โลกเราได้เรียนรู้แล้วว่าการปล่อยให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง มีอำนาจในการกำหนดนโยบายการเงินเอง นำมาซึ่งความพังพินาศที่ทุกคนในสังคมต้องรับผิดชอบร่วมกันมากแค่ไหน ในวันที่ผู้คนคิดได้ว่าการเงินไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกเสรี วันนั้นสกุลเงินดิจิทัลก็จะกลับมาเจิดจรัสอีกครั้งสินทรัพย์เกิดใหม่
ในปี 2018 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง $3,158.10 ถึง $17,224.62 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ
ในปี 2019 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง $3,355.25 ถึง $13,844.30 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ
ในปี 2020 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง $3,925.27 ถึง $29,301.78 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ
ในปี 2021 กรอบราคาบิทคอยน์อยู่ระหว่าง $28,957.79 ถึง $68,906.48 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญสภาพตลาดในปัจจุบันที่เทรนด์ขาลงยังเป็นฝ่ายคุมเกม
Bitcoin Futures Weekly
1. รัฐบาลชอบบล็อกเชนแต่ไม่เอาคริปโตฯ
2. สัญญาณขาลงที่ส่งมาจาก High กลางเดือนพฤศจิกายน
BTC/USD Daily
3. โลกยังคงไม่ชินกับสินทรัพย์สำรองใหม่
Gold Weekly
คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
-
Circle X FamilyMart ไต้หวัน ยกระดับ เปิดบริการแต้มสะสมแลกคริปโต
-
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ฟื้นตัวจากความตระหนกจากไวรัส Omicron โดย
-
Cardano เพิ่มขนาดบล็อกขึ้น 12.5% สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร โดย Siamblockchain
-
วิเคราะห์ SET50, ทองคำ, ค่าเงินดอลลาร์, TFEX, ราคายาง ประจำวันที่ 25/11/2021
-
เปิด 3 เกณฑ์ใหม่ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
-
Daily Strategy.....แนะนำเพียงเก็งกำไร ในลักษณะ Selective
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- Analysis of USD/CAD (February 11, 2025)
- ทางการสหรัฐฯ เตรียมขาย crypto มูลค่า 56 ล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยเหยื่อ BitConnect โดย Siamblockchain
- Elon Musk เตือนนักลงทุน Dogecoin ที่ใช้ Leverage ว่าอันตรายเกินไป โดย Siamblockchain
- ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัว ปิดบวกนำด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดย
- Binance เปิดตัวพาร์ทเนอร์รายใหม่ SEPA ช่วยให้ลูกค้า ชำระเงิน
- ดอลลาร์แข็งค่า หลังยูโรร่วง ทุกสายตาจับจ้องไปยังการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย
- ดอลลาร์ปรับตัวลง หลังเฟดมีแนวโน้มใช้นโยบาย Hawkish โดย
- 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตาสัปดาห์นี้: ประธานเฟดคนต่อไปจะเป็นใคร? โดย
- สถิติชี้ดาวโจนส์ร่วงกว่า 4% เดือนนี้ แต่พุ่งกว่า 14% ในปี 67 แรงสุดรอบ 3 ปี โดย InfoQuest
- เหรียญเกมตัวหนึ่งมีราคาขึ้นพุ่งกว่า 400% ท่ามกลางความนิยมของเกมบล็อกเชน โดย Siamblockchain
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- UBS ชี้ การปฏิรูปด้านมูลค่าตลาดของจีนอาจเสริมความมั่นใจการลงทุน โดย
- 3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: Zoom, Medtronic Sales, Tesla โดย
- Daily Strategy.....มีปัจจัยเสี่ยงกดดัน SET เพิ่มเติม
- หุ้นเอเชียปรับตัวลง นักลงทุนจับตาไวรัสโอมิคอน โดย
- ราคาทองฟิวเจอร์บวก รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดย InfoQuest
- ดอลลาร์แข็งค่า นักลงทุนเดิมพันกับนโยบาย Hawkish โดย
- ทองคำขึ้น แต่ยังไม่พ้นระดับ 1,800 หลังเฟดส่งสัญญาณลด QE โดย
- ทางการสหรัฐฯ เตรียมขาย crypto มูลค่า 56 ล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยเหยื่อ BitConnect โดย Siamblockchain
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- 3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: Zoom, Medtronic Sales, Tesla โดย
- ตั้งแต่ Cardano เปิดตัว Smart Contract ราคา ADA ก็ดำดิ่งสู่ห้วงอเวจีเรื่อย ๆ โดย Siamblockchain
- น้ำมันดิบร่วงลง ตลาดรอการตอบสนองของ OPEC+ ต่อการปล่อยน้ำมันสำรอง โดย
- ราคาน้ำมันปรับลดลง จ่อขาดทุนรายสัปดาห์จากแผนพลังงานของทรัมป์ โดย
- บิตคอยน์ (BTC) กับ 4 สิ่งที่ควรจับตาดูในสัปดาห์นี้ โดย Cryptosiam
- Daily Strategy.....SET ยังผันผวน ขาดปัจจัยบวกหนุน
- น้ำมันปรับตัวลง หลังสถานการณ์โควิดในยุโรปทรุด โดย
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- เจาะลึกดีล TRUE+DTAC
- Shiba Inu ถูกลิสต์บนกระดานเทรด Phemex ของอดีตนักพัฒนา Morgan Stanley แล้ว โดย Siamblockchain
- บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า ทองคำปิดดิ่ง หลังโจไบเดนประกาศชื่อประธานเฟด
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร