นักลงทุนตลาดน้ำมันควรทราบอะไรเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากโอไมครอน?
ถึงนาทีนี้เราเชื่อว่านักลงทุนส่วนมากบนโลกน่าจะรู้จักกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีนามว่า “โอไมครอน” กันไปแล้ว นี่คือเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่ถูกค้นพบในทวีปแอฟริกา มีความสามารถในการกระจายตัวได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้หลายเท่า และเข้าโจมตีมนุษยชาติอย่างไม่ทันตั้งตัว สาเหตุที่เราใช้คำว่า “ไม่ทันตั้งตัว” นั้นเพราะข่าวนี้พึ่งจะเริ่มมาเป็นที่พูดถึงกันในโลกตะวันตกหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ในวันนั้น ตลาดลงทุนปิดทำการ ทุกคนกำลังใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างสบายใจ ถึงแม้ว่าบางแพลตฟอร์มจะมีปริมาณการซื้อขายอยู่บ้าง แต่ก็เป็นระดับที่เบาบางมากๆ จึงไม่มีใครได้ทันสังเกตในยามที่โควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้าตีกรุง ทันทีที่ตลาดลงทุนฝั่งสหรัฐอเมริกากลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ได้ปรับตัวลดลงมากกว่า 13% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $68.15 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็ได้ปรับตัวลดลง 11.6% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $72.72 ต่อบาร์เรล การเทขายน้ำมันดิบอย่างรวดเร็วในวันศุกร์นั้นเกิดขึ้นจากความกังวลในความไม่รู้ของตลาด สำหรับโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้น จนถึงตอนนี้มนุษยชาติก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นภัยมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เราจึงได้เห็นข่าวรัฐบาลของหลายๆ ประเทศอย่างเช่นสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และอิสราเอล ตัดสินใจสั่งปิดชายแดนและห้ามการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ บางประเทศถึงขั้นเจาะจงว่าห้ามชาวแอฟริกาเข้าประเทศเลยทีเดียว หากนับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้มี 56 ประเทศแล้วที่ตัดสินใจห้ามการเข้ามาของชาวต่างชาติ เพื่อหวังจะสกัดกั้นเจ้าไวรัสโอไมครอน ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ประกอบกับสภาวะเงินเฟ้อ และเกมการเมืองระหว่างประเทศ จะยิ่งส่งผลให้ตลาดน้ำมันยังคงผันผวนต่อไป แต่มีสิ่งใดบ้างที่นักลงทุนควรรู้ หรือมีคำถามใดที่นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยง ในบทความนี้เราจะพาไปดูสามคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนลงทุนกับตลาดน้ำมันในเดือนสุดท้ายของปี 2021 ที่จริงแล้วหลังจากมีข่าวการค้นพบโอไมครอน ราคาน้ำมันในวันจันทร์ได้พยายามฟื้นตัวกลับขึ้นมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สามารถปรับตัวขึ้นมาจนแตะ $77 ต่อบาร์เรล ก่อนที่ร่วงลงไปยัง $73.44 ต่อบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI ได้ขึ้นมาแตะ $72 ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลดระดับลงไปยัง $69.95 ต่อบาร์เรล สาเหตุที่ราคาน้ำมันสามารถกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยเป็นเพราะมีบางสำนักข่าวเล่นประเด็นที่ว่าโอไมครอนแม้จะระบาดเร็ว แต่ก็อาจจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่กังวลกัน แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อิสราเอล และหลายๆ ประเทศในยุโรป ถึงกระนั้นตลาดลงทุนก็ยังพยายามจะเชื่อว่าคงไม่รุนแรงถึงขนาดต้องกลับมาคุมเข้มการเดินทาง จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาประกาศพบโอไมครอนในประเทศของตัวเองเป็นรายแรก หลังจากที่โจ ไบเดนประกาศเรื่องนี้ให้ทั้งโลกได้ทราบ ราคาน้ำมันดิบในวันอังคารและพุธก็กลับเข้าสู่ขาลงทันที ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะบอกว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แต่เขาก็ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มชาวต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อเข้าประเทศ ทำให้การเดินทางไปสหรัฐอเมริกานั้นยากลำบากมากขึ้นไปอีก การดำเนินการเช่นนี้ยิ่งทำให้ตลาดลงทุนเชื่อว่าความต้องการน้ำมันเพื่อเดินทางจะยิ่งลดลง ทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางมากที่สุดอยู่แล้วแท้ๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้ง WTI และเบรนท์ในวันที่ 1 ธันวาคมยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า $70 ต่อบาร์เรล ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของกลุ่ม OPEC และ IEA จะมีความแม่นยำกว่าการคาดการณ์ของธนาคารชื่อดังหลายแห่ง จากระยะเวลาที่เราเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนจะสิ้นปี 2021 ความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นน้ำมันดิบวิ่งขึ้นแตะ $90 ต่อบาร์เรลในตอนนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ธนาคารชื่ิอดังที่เคยหน้าแตกไปก่อนหน้านี้อย่างโกลด์แมน แซคส์ก็พยายามออกรายงานอธิบายเหตุผลว่าทำไมนักวิเคราะห์ของตนถึงเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในสถานการณ์แบบนี้ ใช่ว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะไม่ทำให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน (OPEC) ไม่รู้สึกหวั่นไหว มิเช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นข่าวกลุ่ม OPEC และชาติพันธมิตรขอเลื่อนการประชุมออกไปกลายเป็นช่วงดึกของเมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกันตั้งแต่วันพุธ แต่ทางกลุ่มก็ยังไม่ขอสรุปจนกว่าจะถึงการประชุมเมื่อวาน และแล้วผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และชาติพันธมิตร (OPEC+) ก็ได้ข้อสรุปออกมาว่าที่ประชุมมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงปัจจุบันในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2022 ตามเดิม สยบข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ว่า OPEC+ อาจระงับแผนการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อรับมือกับความต้องการน้ำมันที่คาดว่าจะลดลงเพราะผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากการประชุมจบลงตามเวลา 14:30 GMT ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลดลง 1.7% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $67.66 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ปรับตัวลดลง 1.8% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $64.33 ต่อบาร์เรลWTI Weekly TTM
คำถามที่ 1: ขาลงครั้งนี้เป็นเพียงการย่อเพื่อปรับตัวขึ้นต่อหรือไม่?นักลงทุนตลาดน้ำมันควรทราบอะไรเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากโอไมครอนฉันมีระบบเทรดที่ยอดเยี่ยม
คำถามที่ 2: ควรคาดการณ์ตลาดน้ำมันจากข่าวเหล่านี้อย่างไร?
คำถามที่ 3: ความผันผวนในตลาดน้ำมันปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อผลการประชุม OPEC+ หรือไม่?
คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
-
ทรัมป์เสนอให้ยกเลิกโครงการพลังงานลมในรัฐแมรีแลนด์
-
ทองฟิวเจอร์พลิกดีดตัว หลังทรุดหนักจากข่าวจีนหยุดซื้อทอง โดย InfoQuest
-
ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าลบ 2.22 จุด แกว่งแคบ
-
ยอด Presale ของโปรเจคเหรียญ AI ‘WienerAI’ พุ่งทะลุ 4 ล้านดอลลาร์แล้ว โดย Siamblockchain
-
PayPal ยื่นขอสิทธิบัตร ระบบการซื้อและโอน NFT
-
ราคาน้ำมัน WTI พุ่งเกือบ 2% ทะลุ $79 ขานรับ CPI ต่ำคาด โดย InfoQuest
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- เงินเอเชียทรงตัว ดอลลาร์นิ่งก่อนข้อมูล CPI และการประชุมเฟด โดย
- สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าจากสัญญาณ hawkish ของเฟดหลังเงินเฟ้อผ่อนคลาย โดย
- ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.80 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาคดีร้อนการเมือง กรอบพรุ่งนี้ 36.65
- สถิติชี้ดาวโจนส์ร่วงกว่า 4% เดือนนี้ แต่พุ่งกว่า 14% ในปี 67 แรงสุดรอบ 3 ปี โดย InfoQuest
- BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 36.35
- ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ โดย InfoQuest
- ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดลบ 156.24 จุด จับตาผลประชุม BOJ โดย InfoQuest
- ราคาน้ำมันทรงตัว ขณะที่ตลาดประเมินแนวโน้มการผลิตยุคทรัมป์และอุปทานตึงตัว โดย
- Tether เปิดตัว “Alloy”เหรียญ Stablecoin ตัวแรกที่หนุนด้วยทองคำ โดย Siamblockchain
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- 6月14日OKCOPY智能跟单系统升级公告
- ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันจูนทีนธ์ โดย InfoQuest
- ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันจูนทีนธ์ โดย InfoQuest
- ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 36.81 จับตาผลคดีการเมืองไทย คาดกรอบวันนี้ 36.65
- 6月14日OKCOPY智能跟单系统升级公告
- ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 200 จุด โดย InfoQuest
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวน นักลงทุนจับตา CPI สหรัฐ
- ทองฟิวเจอร์ร่วงใกล้หลุด $2,330 ขายทำกำไรฉุดตลาด โดย InfoQuest
- Binance.US ประกาศระงับถอนดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลก่อ
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพุธที่ 19 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) โดย InfoQuest
- อัปเดตตลาดโลก: หุ้น APAC ผันผวน หุ้นเทคฯ หนุนดัชนีในวอลล์สตรีททำจุดสูงสุด โดย
- 5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ประชุมเฟด 2 วัน บทสรุปจะเป็นอย่างไร? โดย
- GBP/USD steady after UK inflation data release.
- อัปเดตตลาดโลก: หุ้น APAC เปิดแบบผสมจากความกังวลทางการเมือง โดย
- หุ้นเอเชียร่วงจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนและความไม่แน่นอนในยุโรป โดย
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 31.10 ดอลล์ รับความหวังสหรัฐลดดอกเบี้ยปีนี้ โดย InfoQuest
- ทองคำมีการเคลื่อนไหวโดยมีแรงกดเล็กน้อยและผันผวนเล็กน้อย
- หุ้น CrowdStrike พุ่งหลังประกาศการเข้าร่วม S&P 500 โดย
- ตลาดเอเชียพุ่งจากแรงหนุนในหุ้นเทคฯ เงินดอลลาร์อ่อนตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย โดย
- ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 36.81 จับตาผลคดีการเมืองไทย คาดกรอบวันนี้ 36.65
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร