เฟดคงดอกเบี้ยและประกาศลดคิวอีตามคาด ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยอาจต้องรอการฟื้นตัวตลาด
Fed Funds Target Range Actual: 0.00-0.25% Previous: 0.00-0.25% KTBGM: 0.00-0.25% Consensus: 0.00-0.25% คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติให้ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และประกาศปรับลดการซื้อสินทรัพย์ (คิวอี)จากระดับ ณ ปัจจุบัน เดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามคาด ทั้งนี้ การปรับลดคิวอีสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ทั้งนี้ ประธานเฟดระบุว่า การปรับลดคิวอีไม่ได้สะท้อนว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในเร็วนี้ และย้ำว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเหมาะสม หากตลาดแรงงานสหรัฐฯฟื้นตัวดีขึ้นตามคาด เราคงมุมมองที่ต่างจากตลาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในไตรมาสแรกปี 2023 ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจ้างงานของคนทุกเชื้อชาติฟื้นตัวได้ดีขึ้น สู่ระดับก่อนวิกฤติ อย่างไรก็ดี เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้ในปี 2022 ถ้าเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด รวมถึงตลาดแรงงานฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ประเมินไว้ จังหวะการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินดอลลาร์และค่าเงินบาทได้ โดยเงินดอลลาร์มักจะแข็งค่าขึ้น 6 เดือนก่อนการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด ซึ่งอาจกดดันเงินบาทได้ในช่วงปลายปี 2022 Next FOMC Decision: Dec 16 2021 (2 AM BKK) คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติให้ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% FOMC มองกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานเดินหน้าฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ว่าการระบาดของ Delta ที่ผ่านมาทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจชะลอลงมาบ้างนอกจากนี้ เฟดมองว่า เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงนั้นเกิดจากปัจจัยชั่วคราว โดยในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาความไม่สมดุลระหว่าง Supply & Demand จากผลกระทบช่วงการระบาดและการเปิดเมืองได้หนุนให้ราคาสินค้าบางส่วนปรับตัวสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ดี FOMC มองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังขึ้นอยู่กับการระบาดของ COVID-19 ซึ่งการเร่งแจกจ่ายวัคซีน รวมถึงปัญหาด้าน Supply Chain ที่คลี่คลายลงจะช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงได้ทั้งนี้ เฟดจำเป็นต้องคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เพื่อหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและส่งผลให้เฟดสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งการจ้างงานและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา (เงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว) นอกจากนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นมาก FOMC จึงประกาศลดการซื้อสินทรัพย์หรือคิวอีในอัตราเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฟดจะลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และลดการซื้อ Agency MBS 5 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดีเฟดได้ระบุว่า การลดคิวอีนั้น สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ทั้งนี้ในส่วนการแถลงของประธานเฟด ประธานเฟดได้เน้นย้ำจุดยืน “ไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ย” โดยประธานเฟดได้ระบุว่า การปรับลดคิวอี ไม่ได้สะท้อนว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในเร็วนี้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังได้ย้ำว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมมากขึ้น หากการจ้างงานในสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีขึ้นชัดเจน เราคงมุมมองว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ในไตรมาสแรกปี 2023 สวนทางกับมุมมองของตลาด แต่มีโอกาสที่จะขึ้นได้เร็วกว่านั้น หากตลาดแรงงานฟื้นตัวเร็วและเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด เราเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่เฟดจับตาอย่างใกล้ชิด คือ การจ้างงาน ดังนั้น เราคงมุมมองเดิมว่า เฟดอาจทยอยขึ้นดอกเบี้ย ได้ตั้งแต่ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว การจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจนอัตราการว่างงานของคนอเมริกันทุกเชื้อชาติ ปรับตัวลดลงสู่ระดับก่อนวิกฤติ COVID อย่างไรก็ดี เราเห็นว่า มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้เร็ว หากทั้งการจ้างงานฟื้นตัวได้เร็ว และ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานกว่าคาดโดยในประเด็นเงินเฟ้อนั้น เรามองว่า ปัญหาด้าน Supply Chain ยังมีความเสี่ยงที่จะยืดเยื้อ เนื่องจากทางการจีนยังมีนโยบาย Zero COVID ทำให้ การเปิดท่าเรืออาจมีการสะดุดลง หากมีการระบาดของ COVID ระลอกใหม่ หรือ การเคลียร์สินค้า ณ ท่าเรือ ก็ยังคงใช้เวลานานกว่าปกติ จากมาตรการควบคุมการระบาด ทั้งนี้ เรามองว่า ถ้าเฟดเผชิญปัญหาเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนาน แต่การจ้างงานยังฟื้นตัวไม่ดีตามเป้า เฟดอาจจะเลือกปรับลดคิวอีในอัตราที่มากขึ้น แทนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ตลาดการเงินอาจไม่ได้ผันผวนไปมากนัก อย่างไรก็ดีต้องจับตาแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างใกล้ชิดต่อ เพราะเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าราว 3-4% ในช่วง 6 เดือนก่อนการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก จากสถิติในอดีตของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก 3 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด อาจส่งผลกระทบให้เงินบาทผันผวนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าได้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ประเทศไทยก็ต้องลุ้นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ เรามองว่า หากการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังปีหน้า ก็อาจไม่ได้กดดันเงินบาทมากนัก และเงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้าง โดยเราประเมินว่า เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2023(ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากประมาณการในเดือนตุลาคม เนื่องจากมีการปรับมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยเฟด จากไตรมาสที่ 2 ปี 2023 เป็น ไตรมาสที่ 1) Fed Balance Sheet and QE size

Market expectations on rate hike
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
- ราคาทองคำพุ่งแตะ $2,697 หลังข้อมูล CPI กดดันเงินดอลลาร์ โดย
- 韩国现任总统尹锡悦被捕 创宪政史先例 上千警察与数千民众现场对峙
- 俄乌互袭升级 罕见无人机空袭基辅市中心 泽连斯基誓言一年内结束战争
- 联储鹰派转向压制金铜价格,地缘危机与通胀预期或成后市关键
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงโดยฝรั่งเศสเป็นผู้นำในการลดลง
- 韩国总统尹锡悦面临弹劾与逮捕风波 国家分裂与政治危机加剧
- 加沙地带停火协议生效,援助车队进入准备物资运输,巴勒斯坦民众开始返回家园
- 韩国总统尹锡悦面临弹劾与逮捕风波 国家分裂与政治危机加剧
- ชาวตุรกีกว่า 52% ลงทุนในคริปโต เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาด้านเงินเฟ้อของประเทศ
- 洛杉矶县超15万人接疏散令,山火持续肆虐致超16人死亡多地受灾严重
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- ก.ล.ต. เตือนภาคเอกชนให้ระมัดระวังการกระทำที่อาจเข้าข่าย “ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต
- 拜登考虑对俄能源部门实施新一轮制裁,担忧国内燃料价格上涨成阻碍
- 特朗普宣誓就职美国第47任总统,誓言开启“黄金时代”并重塑国家秩序
- 土耳其总统埃尔多安威胁军事行动,库尔德武装面临“放下武器或被埋葬”选择
- เหรียญมีม$TRUMP ของทรัมป์ 'การพนันมากกว่าการลงทุน' เตือน Green ของ deVere โดย
- 金价静待特朗普上任 油价受俄乌天然气协议终止影响迎多头支撑
- 特朗普内阁提名人选下周迎参议院听证会,多位关键人选备受争议
- 特朗普团队请求推迟“封口费”案件的判决,以便为上诉总统豁免权的裁定争取时间
- อีลอน มัสก์ เผชิญหน้ากับแอปเปิ้ลและ OpenAI
- 美国宣布向乌克兰追加近60亿美元援助,覆盖预算支持与关键军事装备
- 特朗普宣布上任后将尽快与普京会面,商讨结束乌克兰冲突计划
- 美国拟加强英伟达和AMD芯片出口限制,AI技术传播或受控于全球标准
- ทองคำแทนที่ยูโรกลายเป็นที่นิยมสำหรับการสำรองเงินตรา
- 新奥尔良汽车冲撞行人事件致10死 FBI介入调查疑为恐怖袭击 白宫表态全力支持
- 美国在达成重要移民协议后,推迟对哥伦比亚的征税
- 特朗普内阁提名人选下周迎参议院听证会,多位关键人选备受争议
- Circle X FamilyMart ไต้หวัน ยกระดับ เปิดบริการแต้มสะสมแลกคริปโต
- 美联储2024年成功软着陆,但通胀压力和2025年政策走向仍存隐忧
- 特朗普宣誓就任美国第47任总统,提出扩张领土等雄心勃勃的计划
- 特朗普在达沃斯论坛喊话全球企业:不在美国生产将面临巨额关税,承诺大幅降低企业税率
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร