ทรัมป์พิจารณายกเว้นภาษีรถยนต์ อุตสาหกรรมรถยนต์คาดหวังการ "จัดการแบบแบ่งชั้น"

ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันพุธว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาการยกเว้นภาษีบางส่วนสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ จากข้อมูลภายใน การเคลื่อนไหวนี้เรียกว่า "การจัดการภาษีแบบแบ่งชั้น" (destacking) การยกเว้นนี้ไม่รวมภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ทั้งคันและไม่ส่งผลต่อภาษี 25% สำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 3 พฤษภาคม

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังกล่าวว่าอาจจะเพิ่มภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์จากแคนาดา ในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์กล่าวว่า "เมื่อผมเก็บภาษีจากแคนาดา พวกเขาจ่ายภาษี 25% แต่สำหรับรถยนต์ ภาษีอาจจะเพิ่มขึ้น สิ่งที่เราทำคือบอกว่า 'ไม่ตั้งใจข่มขู่ แต่เราไม่ต้องการรถของคุณ เราอยากผลิตรถยนต์ของเราเองจริงๆ'"

แผนการยกเว้นภาษีนี้มุ่งเป้าไปที่ชิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียม แต่ยังคงไว้ซึ่งภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ทั้งคันและเหล็กอลูมิเนียม การตัดสินใจนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐฯ ต้องเผชิญก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มนโยบายที่เกี่ยวข้องได้พยายามผลักดันรัฐบาลให้ลดภาษีบางส่วน โดยมีการสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมจากต้นทุนซับซ้อนที่อาจเพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์

ในสัปดาห์นี้ กลุ่มนโยบายหลักหกกลุ่มที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐฯ ได้ร่วมกันกดดันรัฐบาลทรัมป์เพื่อเรียกร้องไม่ให้เก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้า รัฐบาลทรัมป์ระบุว่าอาจพิจารณาภาษีชิ้นส่วนรถยนต์ใหม่ ซึ่งคล้ายคลึงกับที่ได้อนุมัติการลดภาษีสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการบริโภคและเซมิคอนดักเตอร์ก่อนหน้านี้ ท่าทีนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารในอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเห็นว่า หากสามารถยกเว้นภาษีชิ้นส่วนที่กำลังจะบังคับใช้ได้ จะถือเป็นการพัฒนาในทางบวก

กลุ่มนโยบายเหล่านี้เป็นตัวแทนของตัวแทนจำหน่าย ผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ซึ่งระบุว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีอยู่ "กำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก" ทนต่อการเพิ่มขึ้นของต้นทุนไม่ไหว สิ่งนี้อาจจะนำมาซึ่งปัญหาที่กว้างขวางในอุตสาหกรรม ตัวแทนของอุตสาหกรรมระบุว่าภาษีที่กำลังจะมีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ และอาจก่อให้เกิดการตอบโต้ต่อเนื่องหลายอย่าง

โดยรวมแล้ว แผนการ "การจัดการภาษีแบบแบ่งชั้น" ของทรัมป์จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดภาระภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ภายในอุตสาหกรรมยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาษีเหล็กและอลูมิเนียมที่ยังคงมีอยู่

ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว