ที่ตั้งปัจจุบัน:หน้าแรก > {คอลัมน์ปัจจุบัน}

เศรษฐกิจไตรมาสสอง ขยายตัว +1.8%y/y ชะลอลงจากไตรมาสแรก

เศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัว+1.8%y/yชะลอลงจากไตรมาสแรก กดดันโดยการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐเศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวyyชะลอลงจากไตรมาสแรกตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในประเทศ

  • GDP Q2 2023

    Actual: +1.8%y/y Previous: +2.6%y/y 

เศรษฐกิจไตรมาสสอง ขยายตัว +1.8%y/y ชะลอลงจากไตรมาสแรก

เศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวyyชะลอลงจากไตรมาสแรกตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในประเทศ

    Consensus: +3.1%y/y

เศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวyyชะลอลงจากไตรมาสแรกตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในประเทศ
  • เศรษฐกิจไทยไตรมาสสองของปี2023 ขยายตัว+1.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่โต+2.6% โดยมีปัจจัยกดดันจากการหดตัวลงของการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ รวมถึงการหดตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า ขณะที่ปัจจัยหนุนยังคงเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องของการส่งออกภาคการบริการ (การท่องเที่ยวจากต่างชาติ) ที่หนุนให้การบริโภคภาคเอกชนยังคงขยายตัวเร่งขึ้น
  • การชะลอตัวลงมากกว่าคาดของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่2 ทำให้สศช. ปรับลดอัตราการเติบโตเศรษฐกิจทั้งปี2023 เหลือ2.5%-3.0% (เดิม2.7%-3.7%) โดยยังคงมีการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการขยายตัวต่อเนื่องของการบริโภคเป็นเครื่องยนต์สำคัญ ส่วนปัจจัยกดดันยังคงเป็นการหดตัวลงของการส่งออกสินค้าและการชะลอตัวลงของการลงทุนจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ
  • เราเตรียมปรับประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยลงเพื่อให้สอดคล้องกับรายงานเศรษฐกิจล่าสุด ทั้งนี้ เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่จะได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภค อย่างไรก็ดี เราจะติดตามผลกระทบจากภาวะแล้งจาก El Nino ที่อาจกระทบต่อรายได้และการใช้จ่ายครัวเรือน

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(Real GDP) ประจำไตรมาสที่2 ปี2023 ขยายตัว+1.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแย่กว่าที่ตลาดคาดที่+3.1%

เศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวyyชะลอลงจากไตรมาสแรกตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในประเทศ
  • เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสองของปี2023 ขยายตัวเพียง+1.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนโดยยังมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน +7.8% การส่งออกบริการซึ่งส่วนใหญ่คือ การท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องถึง +54.6% อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงหดตัวต่อเนื่องกว่า -5.7% ตามการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐหดตัวกว่า -4.3% ตามการลดลงของค่าใช้จ่ายการโอนเพื่อสวัสดิการสังคมที่ลดลงต่อเนื่อง -25.1% นอกจากนี้ การลงทุนโดยรวมยังชะลอตัวลง +0.4% จาก +3.1% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการชะลอตัวลงของการลงทุนทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ 
  • สศช. “ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในปี2023 เป็นขยายตัว2.5%-3.0% (เดิม2.7%-3.7%) โดยเศรษฐกิจยังมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวต่อเนื่องของการลงทุนโดยรวม แนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนที่จะขยายตัวได้ดี ส่วนปัจจัยกดดันยังคงเป็นภาคการส่งออกสินค้าที่อ่อนแอ
  • ทั้งนี้ ในการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ สศช. ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การบริโภคภาคเอกชนเป็น+5.0%y/y จากเดิมที่มองว่าจะขยายตัวราว+3.7%y/y สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี สศช. ได้ปรับลดประมาณการใช้จ่ายของภาครัฐเป็น-3.1%y/y จากเดิมมองที่-2.6%y/y ตามฐานที่สูงในปีงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของ COVID-19 และการเบิกจ่ายของภาครัฐที่ล่าช้าหรือน้อยกว่าปกติ นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดคาดการณ์การลงทุนรวมเป็น +1.6% จาก +2.1% ในส่วนของแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทางสศช. มองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ1.7%-2.2% ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่2.5%-3.5%

เศรษฐกิจไทยชะลอลงมากกว่าคาดทำให้เราเตรียมปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี2023 ลงและต้องติดตามความเสี่ยงจากการเมืองรวมถึงEl Nino

เศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัวyyชะลอลงจากไตรมาสแรกตัวแทนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในประเทศ
  • เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย อาทิ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างชาติ และการบริโภคภาคเอกชนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แต่ปัจจัยกดดันกลับเป็นฝั่งภาคการลงทุน ทั้งในส่วนการลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐ ซึ่งเรามองว่า ปัจจัยสำคัญ อาจมาจากสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจทั้งปี 2023 ก่อนหน้าของเราที่ +3.4%y/y นั้น ได้มีการคำนึงถึงปัญหาการทำงบประมาณที่ล่าช้าไปบ้าง แต่ในส่วนของประมาณการใหม่เรามองว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าจะมีโอกาสส่งผลให้การจัดทำงบประมาณล่าช้ากว่าคาด ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนจนกระทบต่อsentiment การลงทุนโดยรวมอย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการทยอยฟื้นตัวของภาคการส่งออกในช่วงปลายปี ทำให้เราประเมินเบื้องต้นว่าอัตราการเติบโตเศรษฐกิจทั้งปีอาจลดลงจาก+3.4% แต่ยังคงใกล้เคียง+3.0% ทั้งนี้ เราอาจปรับประมาณการเศรษฐกิจลงอีก หากรายได้ภาคเกษตรกรรม ได้รับผลกระทบจากภาวะ El Nino จนกดดันให้การบริโภคภาคเอกชนโตน้อยกว่าคาด
  • แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ไม่ได้ขยายตัวดีอย่างที่เคยประเมินไว้ รวมถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง จนทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ รวมถึงเรามีการปรับประมาณการลง เป็นเหตุผลที่ทำให้ เรายังคงมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ2.25% อย่างไรก็ดี เรายังให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อสู่ระดับ2.50% ราว45%เนื่องจาก ธปท. อาจยังมีความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ จากนโยบายของรัฐบาลใหม่และผลของ El Nino รวมถึง ธปท. อาจต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) เพื่อรับมือความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในอนาคต  
คำสั่ง: เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FTI เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

แบ่งปัน: